พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผช.ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) ได้รับทราบความความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมือง
ทั้งนี้ ฝ่ายกฎหมายได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคดีสำคัญ ได้แก่ กลุ่มแรกเป็นคดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีจำนวนทั้งสิ้น 152 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว 127 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 25 คดี ขณะที่คดีที่กลุ่มผู้ชุมนุมบุกยึดทำเนียบรัฐบาลนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ ส่วนคดีผู้ชุมนุมปิดล้อมรัฐสภา รวมทั้งการบุกยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติมตามความเห็นของฝ่ายกฎหมาย
กลุ่มที่สองเป็นคดีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ในช่วงระหว่างเดือน เม.ย.52 ถึงเดือน ม.ค.53 มีจำนวนทั้งสิ้น 124 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว 105 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 19 คดี ส่วนคดีที่กลุ่มผู้ชุมนุมบุกรุกเข้าไปในโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ส่วนกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมทุบรถนายกรัฐมนตรีอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ
กลุ่มที่สามเป็นคดีกลุ่ม นปช. ในช่วงระหว่างเดือน ม.ค.53 ถึงปัจจุบัน มีจำนวนทั้งสิ้น 342 คดี ประกอบด้วย คดีเกี่ยวกับเหตุระเบิด 97 คดี คดีเกี่ยวกับความมั่นคง 245 คดี ในจำนวนนี้ส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) 89 คดี ส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) 1 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 228 คดี และสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว 23 คดี
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้สรุปสถานการณ์ความเคลื่อนไหวในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยขณะนี้ตำรวจทุกหน่วยยังคงปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับฝ่ายทหารและฝ่ายปกครองเพื่อเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และติดตามสถานการณ์ในทุกด้าน สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ยังคงกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนไว้จำนวน 13 กองร้อย หรือ 2,015 นาย เพื่อเฝ้าระวังเหตุร้ายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น