นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ประธานมูลนิธิหัวใจอาสา กล่าวสนับสนุนนโยบายการปฏิรูประเทศของรัฐบาลว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นและสมควรจะทำในหลายมิติ โดยทั้งภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และภาครัฐ ต้องร่วมกันคิดร่วมกันทำ
"ขอให้เอาพื้นที่เป็นตัวตั้ง ประชาชนเป็นแกนที่มีบทบาทสำคัญ ทุกฝ่ายประสานความร่วมมือกัน ทำให้เป็นพหุภาคี โดยประชาชนคิดแล้วฝ่ายอื่นสนับสนุน" นายไพบูลย์ กล่าวในการปาฐกถาเรื่อง"ธุรกิจเพื่อสังคม ประเทศชาติไม่ติดหล่ม สังคมไม่ติดลบ"
ในส่วนของภาคธุรกิจนั้นจะต้องปฏิรูปวิธีคิดและวิธีทำ โดยเริ่มจากปฏิรูปวิธีคิดจากเดิมที่มองแคบ คิดใกล้ ใฝ่ต่ำเตี้ย ให้เป็นมองกว้าง คิดไกล ใฝ่สูงส่ง ให้คิดในเชิงบวกและเชิงรุก ส่วนการปฏิรูปวิธีทำนั้นต้องคิดให้เป็นธุรกิจเพื่อสังคม กล่าวคือ เป็นธุรกิจที่มีคุณภาพ เป็นธุรกิจที่มีธรรมาภิบาล เป็นธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม และเป็นธุรกิจที่มีกิจการเพื่อสังคม
สำหรับแนวคิดในการจัดทำโครงการ 6 วัน 63 ล้านความคิดร่วมเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยของรัฐบาลน่าจะกระจายออกไปทุกจังหวัดเพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นให้ทั่วถึงมากขึ้น โดยผ่านกลไกภายในแต่ละจังหวัด เช่น หอการค้า สถาบันการศึกษา
นายไพบูลย์ เชื่อว่า ภาคธุรกิจจะมีบทบาทสำคัญในการปฏิรูปประเทศให้เป็นสังคมที่น่าอยู่ ดีงาม และสันติสุขในอนาคต