นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า พรรคได้รับข้อมูลอย่างน้อย 3 จุดที่มีแหล่งซ่องสุม ซึ่งมีรายงานตัวบุคคลและเส้นทางชัดเจน โดยขณะนี้พรรครวบรวมข้อมูลทั้งหมดนำส่ง ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบไปตรวจสอบและติดตามแล้ว
สถานที่แรก คือ เขาโลมฟาน อ.ปักธงชัย ซึ่งได้มีการบอกเส้นทางว่าต้องเดินเท้าไปประมาณ 10 ชั่วโมงก็จะพบแหล่งฝึกอาวุธ ,จุดที่สอง เป็นการฝึกอาวุธของกลุ่มกระเหรี่ยงที่ตะเข็บชายแดน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งพร้อมออกปฎิบัติการตลอดเวลา และเมื่อเสร็จภารกิจก็พร้อมที่จะหลบไปยังรอยตะเข็บชายแดน
และจุดที่สามในกทม.ที่แฟลตการเคหะ 53 ซ.คู้บอน ซึ่งมีการชุมนุมของกลุ่มคนชุดดำอยู่เป็นประจำ
"ทั้ง 3 จุดผมคิดว่าเพียงพอที่ให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่รับผิดชอบจะได้ติดตามพฤติกรรมของคน เหล่านี้ ถ้าหากว่ามีการกระทำผิดกฎหมายหรือฝ่าฝืนการประกาศศอฉ.ก็สามารถที่จะดำเนินการได้ทันที" นายเทพไท กล่าว
สำหรับกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทยแสดงความคิดเห็นที่ให้รัฐบาลคงการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไปจนถึง 23 ธ.ค.54 จนครบวาระ และพรรคประชาธิปัตย์ก็จะมีที่นั่งไม่เกิน 100 เสียงว่า การคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมืองที่จะเกิดขึ้นในช่วงนั้นๆ
“รัฐบาลคงจะไม่ไปบ้าจี้หรือไปทำตามคำท้าทายของ ร.ต.อ.เฉลิม แต่ถ้าหากว่ายังมีสถานการณ์ที่รุนแรง คนในพรรคเพื่อไทยและแกนนำนปช.ยังเคลื่อนไหวปลุกระดมคนเสื้อแดงในลักษณะก่อความรุนแรงก่อความวุ่นวายก็มีเหตุจำเป็นที่จะต้องคงพ.ร.ก.ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าคนเหล่านี้เห็นแก่ความสงบของชาติบ้านเมือง แม้แต่ตัว ร.ต.อ.เฉลิมเองก็ ควรที่จะส่งสัญญาณและว่ากล่าวตักเตือนให้สติกับกลุ่มคนเสื้อแดงให้ยุติความ เคลื่อนไหว รัฐบาลก็พร้อมที่จะเลิก พ.ร.ก.อยู่ตลอดเวลา" นายเทพไท กล่าว