นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จะยื่นฟ้องนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในคดีอาญา ฐานหมิ่นประมาท เพื่อจะได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงกันในศาลต่อไป กรณีที่นายชวน ออกมากล่าวหากรณีที่ตนออกมาพูดเรื่องนักการเมือง "ช." ล็อบบี้ให้ พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ สมาชิกพรรคการเมืองใหม่ถอนตัวไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. มีเจตนาพาดพิงถึงนายชวนและบอกว่าเป็นการโกหกรายวันนั้นว่า ถือเป็นการใส่ความตนในฐานะที่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน มีหน้าที่ตรวจสอบ ซึ่งเจตนาที่กล่าวถึงนักการเมืองชื่อ "ช."เป็นไปเพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ไปสืบสวน สอบสวนว่ามีการฮั้วการลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 กทม.หรือไม่
ซึ่งทราบว่ากกต.กำลังตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ แต่นายชวนกลับมากล่าวหาว่า ตนเป็นกระทำการโกหกรายวันแทนที่จะรอผลตรวจสอบของ กกต. นายชวนเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นนักกฎหมายใหญ่ การจะกล่าวหาว่าผู้ใดเป็นคนโกหกนั้น ย่อมตระหนักและรู้ดีว่าจะทำให้เกิดความเสียหาย ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง จึงถือว่าการกระทำดังกล่าวส่งผลให้ตนได้รับความเสียหาย
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและคนหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่เปิดตัวกรรมการ 8 คน ว่า รายชื่อทั้ง 8คน สังคมรู้จัก เพียงแต่สงสัยในขอบเขตของการทำหน้าที่ ที่ระบุว่าไม่ค้นหาว่าใครถูกหรือผิด แต่จะมุ่งแสวงหาความจริงและต้นเหตุแห่งปัญหา ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้มีอายุ 2 ปี ขณะที่คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีอายุ 3 ปี แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์มีอายุเหลือเพียงปีเศษ
"อยากถามว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ เป็นการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อผลาญงบประมาณหรือไม่ กรรมการชุดต่างๆตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นไม้ประดับให้ดูดีในการบริหารประเทศต่อไปของรัฐบาล การดำเนินการภายใต้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯมันจะมีความยุติธรรมได้อย่างไร การตั้งกรรมการต้องอยู่บนพื้นฐานแห่งความเท่าเทียมแต่วันนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความอยุติธรรม มีการออกหมายเรียกบุคคลเข้าไปตรวจสอบธุรกรรมการเงิน แม้แต่เรียกตนที่ทำหน้าที่โฆษกฝ่ายค้านก็กำลังจะโดนด้วย สะท้อนให้เห็นถึงความอยุติธรรม มุ่งจัดการคนที่เห็นต่างกับรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียว"นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาปูดข้อมูลถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช.ในบางพื้นที่ รวมทั้งระบุจุดซ่องสุม 3 จุดนั้น ถือเป็นการพูดตอกย้ำในทิศทางเดียวกับที่รัฐบาลคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯไว้ พยายามบอกว่าจะมีการก่อวินาศกรรม ก่อความรุนแรงต่างๆ ความจริงก็สามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศอะไร เพราะ ศอฉ.ก็พวกเดียวกันทั้งนั้น
สิ่งที่นายเทพไทพูดก็เหมือนนายอภิสิทธิ์พูด เพราะเป็นโฆษกส่วนตัว อยากให้นายอภิสิทธิ์เรียกนายเทพไทไปตบปากบ้าง เราได้ตั้งข้อสังเกตว่าจุดที่นายเทพไทออกมาปูดข้อมูลว่ามีการซ่องสุมใน กทม. ที่แฟลตการเคหะ 53 คู้บอน เขตคันนายาวนั้น เป็นพื้นที่ที่จะมีการเลือกตั้งซ่อมและเราตรวจสอบแล้วไม่พบการซ่องสุมอะไรเลย
"มองว่านี่คือการใส่ร้ายป้ายสี พูดเพื่อทำลายคะแนนเสียงของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ถือว่าทำผิดรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลยื่น กกต.อีกครั้ง"นายพร้อมพงศ์ กล่าว