นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นสูญเสียที่นั่งในสภาสูงในศึกเลือกตั้งวุฒิสภาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งผลการเลือกตั้งดังกล่าวอาจเป็นอุปสรรคความพยายามของรัฐบาลในการปรับลดหนี้สาธารณะในประเทศ และทำให้มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำเป็นครั้งที่สามในปีนี้
สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานผลการเลือกตั้งวุฒิสภาว่า พรรคเดโมเครติค ปาร์ตี้ ออฟ เจแปน (ดีพีเจ) ครองที่นั่งในสภาสูงได้ 44 ที่นั่ง ขณะที่พรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ครองที่นั่งได้ 51 ที่นั่ง ส่วนพรรคยัวร์ ปาร์ตี้ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหม่ที่จัดตั้งโดยนายโยชิมิ วาตานาเบ้ อดีตรัฐมนตรีของพรรคแอลดีพีครองที่นั่งได้ 10 ที่นั่ง
การพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งวุฒิสภาของนายคังครั้งนี้อาจเป็นผลมาจากการอภิปรายเรื่องนโยบายขึ้นภาษี 5% เพื่อนำมาใช้หนี้ญี่ปุ่นที่มีอยู่ 80,000 ดอลลาร์ต่อคน ซึ่งนโยบายดังกล่าวอาจสร้างความไม่เข้าใจและไม่พอใจให้กับประชาชน ในขณะที่เขาเพิ่งเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนที่ผ่านมาแทนนายยูคิโอะ ฮาโตยามะ ที่ประกาศลาออกจากเหตุอื้อฉาวด้านการเงิน รวมถึงประเด็นการย้ายฐานทัพสหรัฐจากเกาะโอกินาว่า
อย่างไรก็ตาม นายคังออกแถลงการณ์ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งทางพรรคฯตั้งเป้าไว้ว่าจะครองที่นั่งให้ได้อย่างน้อย 54 ที่นั่ง แต่ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง หรือปรับคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด
ด้านนักวิเคราะห์ในแวดวงการเมืองของญี่ปุ่นกล่าวว่า "ผลการเลือกตั้งครั้งนี้อาจทำให้นายคังต้องเร่งสะสางปัญหาการเงินในประเทศมากขึ้น และจะไม่มีทางปล่อยให้ปัญหาดังกล่าวผ่านเลยไปเนื่องจากรัฐบาลมองว่าเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งนี่จะเป็นอีกหนึ่งบททดสอบความเป็นผู้นำในสังเวียนการเมืองของนายคัง"
ทั้งนี้ นายนาโอโตะ คัง ได้ประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการปรับลดภาษีนิติบุคคลจากระดับสูงสุดที่ 40% พร้อมตั้งเป้าปรับสมดุลด้านเงินงบประมาณภายใน 10 ปีนี้