นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุกรณีที่รัฐบาลกัมพูชาเตรียมจัดกิจกรรมวันแห่งความโกรธแค้นขึ้นเนื่องจากปราสาทพระวิหารยังไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้นเป็นการแสดงเจตนารมย์ที่ชัดเจนหวังส่งสัญญาณให้คณะกรรมการมรดกโลกเห็นว่าทั้งสองประเทศยังมีปัญหาความขัดแย้งกันอยู่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อประเทศไทย
"การจัดกิจกรรมช่วงนี้คงเป็นเจตนา แต่คณะรัฐมนตรี(ครม.)ก็มีมติชัดเจนว่าการดำเนินการในคณะกรรมการมรดกโลกนั้นเราจะดำเนินการอย่างเข้มแข็ง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
วานนี้(13 ก.ค.) ครม.อนุมัติงบประมาณจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อให้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่ประเทศบราซิล ระหว่างวันที่ 25 ก.ค.-4 ส.ค.53 โดยนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะนำคณะเดินทางไปร่วมประชุมและเตรียมพร้อมที่จะคัดค้านหากมีการนำเรื่องการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิการเป็นมรดกโลกขึ้นมาพิจารณา
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลยังไม่มีแนวคิดที่จะส่งเอกอัครราชทูตไทยกลับไปประจำที่กรุงพนมเปญ หลังรัฐบาลไทยเรียกตัวกลับประเทศเพื่อเป็นการประท้วงกรณีที่รัฐบาลกัมพูชายอมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าประเทศและเคลื่อนไหวทางการเมือง อีกทั้งไม่ยอมให้มีการส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยด้วย
ส่วนสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและรายงานมาให้ทราบตลอดเวลา ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่ประเด็นน่าเป็นห่วงแต่จะไม่ประมาท