นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เผยได้ลงนามในคำสั่งไม่ฟ้อง บมจ.ทีพีไอโพลีน(TPIPL) กรณีจ่ายเงินค่าจ้างจัดทำสื่อโฆษณาและที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์จำนวนกว่า 263 ล้านบาทให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานยังมีน้ำหนักไม่เพียงพอ
"พยานหลักฐานทั้งปวงยังไม่พอที่จะใช้ยืนยันหรือพิสูจน์ความผิดว่า บริษัท ทีพีไอฯ กระทำความผิดดังกล่าว จึงมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา และผมได้สั่งไม่ฟ้องตามด้วยแล้ว" นายธาริต กล่าว
คดีนี้สืบเนื่องจากมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ TPIPL เนื่องจากมีพฤติการณ์กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และความผิดตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง กรณีจ่ายเงินค่าจ้างให้บริษัท แมซไซอะ บิซิเนสแอนด์ ครีเอชั่น จำกัด
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในการสืบสวนสอบสวนความผิดที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษพบว่า การกล่าวหาเป็นการรับฟังข้อเท็จจริงจากการบอกเล่ามาอีกทอดหนึ่ง ผู้กล่าวหาไม่สามารถให้รายละเอียดได้ชัดเจนเพียงพอ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาประกอบกับพยานหลักฐานอื่นที่สำคัญ เช่น งบการเงินประจำปีที่จัดส่งให้ ก.ล.ต., ตลาดหลักทรัพย์ฯ และศาลล้มละลายกลาง อีกทั้งหลักฐานการทำงานที่ว่าจ้างซึ่งมีความชัดเจนและเชื่อได้ว่า บริษัท แมซไซอะฯ ได้มีการทำงานตามที่ว่าจ้างจริง
อธิบดีดีเอสไอ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นว่า การที่ดีเอสไอสั่งไม่ฟ้องกรณีดังกล่าวจะทำให้น้ำหนักสำนวนที่ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยจะลดน้อยลงหรือไม่ เนื่องจากจะเป็นการก้าวล่วงอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยืนยันว่าได้พิจารณาตรวจสอบอย่างโปร่งใส ไม่มีใบสั่งจากการเมือง หรือมุ่งกระทำการเพื่อช่วยเหลือพรรค ปชป.
นอกจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบพนักงานสอบสวนชุดเดิมที่ลาออกไปว่าเหตุใดคดีจึงไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งในชั้นสอบสวนพบว่ามีหลักฐานหลายอย่างถูกปลอมแปลงขึ้น