น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม พรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะผู้อำนวยงานสำนักงานปราบโกง เปิดเผยถึงกรณีการจัดซื้อรถเกราะล้อยางของยูเครน ล๊อตที่ 2 จำนวน 121 คัน วงเงินราว 5,000 ว่า ได้รับเอกสารจากผู้ร้องเรียนและได้ทำการตรวจสอบแล้ว พบว่าการออกมาแถลงของเจ้ากรมสรรพวุธทหารบก มีประเด็นที่ต้องพิจารณาหลายประการ เพราะตรวจสอบแล้วพบว่ามีความคลาดเคลื่อนและไม่ตรงกับข้อเท็จจริงอยู่หลายอย่าง และพรรคเชื่อว่าเป็นการจัดซื้อที่อาจจะหรือมีการละเมิด TOR อย่างชัดเจน
การที่กองทัพบกออกมากล่าวว่าการจัดซื้อในครั้งนี้โปร่งใสนั้น พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าเป็นการแถลงที่ให้ข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วน ส่อให้เห็นว่ากองทัพบกมีเจตนาบิดเบือนให้ดูเหมือนการจัดซื้อครั้งนี้เป็นการจัดซื้อที่โปร่งใส ทั้งๆ ที่การจัดซื้อในล็อตแรก 96 คนก็ยังไม่มีการส่งมอบ เนื่องจากยูเครนไม่มีสายการผลิตเป็นของตัวเองต้องพึ่งบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นข้อจำกัด เช่นกรณีที่บริษัทผลิตเครื่องยนต์จากเยอรมันไม่ยอมขายเครื่องยนต์ให้ จนต้องมีการขอแก้สัญญา ทำให้ล่าช้าและได้ของไม่ตรงความต้องการ
"ในเรื่องนี้ สตง.ยังให้ความเห็นที่คัดค้านต่อกรณีนี้อยู่ด้วย โดยได้ทำหนังสือคัดค้านไปยัง รมว.กลาโหม และนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นการทำความเห็นแย้งที่ไม่ตรงกับความเห็นของกองทัพบก ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงตั้งข้อสังเกตว่า กองทัพบกพยายามสร้างละครเพื่อตบตาประชาชนและกระทรวงกลาโหมต่อกรณีนี้หรือไม่ อย่างไร" ผอ.สำนักงานปราบโกง ระบุ
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ อย่าตกเป็นเครื่องมือของผู้หนึ่งผู้ใด เพราะเงินงบประมาณที่ใช้ในการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เป็นเงินภาษีของประชาชน และเห็นว่าการเพิ่มศักยภาพในทางทหารเป็นเรื่องที่จำเป็นในการป้องกันอธิปไตยของประเทศชาติ ต้องไม่ลืมว่าทุกอย่างควรจะต้องทำอย่างโปร่งใส ถูกต้องตามกฎหมาย และระเบียบต่างๆ ในการจัดซื้อ ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงกลาโหมต้องแสดงให้เห็นว่าไม่ใช่เครื่องมือทางการเมือง และจะเป็นโอกาสให้ รมว.กลาโหมได้แสดงออกถึงการมีธรรมมาภิบาลในการบริหารอีกด้วย
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ประธานคณะกรรมาธิการการทหารฯ จะนำเรื่องการจัดซื้อรถเกราะล้อยางจากยูเครนเข้าหารือ พร้อมเชิญ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) และกระทรวงกลาโหมเข้าชี้แจง