นายกรัฐมนตรี ระบุรัฐบาลมีมาตรการที่รัดกุมและรอบคอบเพื่อรองรับกรณีที่คณะกรรมการมรดกโลกเตรียมพิจารณาแผนการบริหารปราสาทพระวิหารตามข้อเสนอของรัฐบาลกัมพูชา หลังหลายฝ่ายออกมาแสดงความเป็นห่วงว่าอาจทำให้ไทยสูญเสียดินแดนเพิ่มเติม
"เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ติดตามสถานการณ์และดำเนินการตามความเหมาะสมมาอย่างต่อเนื่อง" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์"ทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เช้านี้
ที่ผ่านมาหน่วยงานที่รับผิดชอบจะประท้วงหากเกิดการรุกล้ำเขตแดนเข้ามาในประเทศไทย โดยย้ำถึงจุดยืนเรื่องเขตแดนตามแนวสันปันน้ำตามสนธิสัญญาที่ไทย-กัมพูชามีต่อกันไว้ก่อนหน้านี้ อีกทั้งไทยไม่เคยยอมรับกรณีที่กัมพูชาใช้แผนที่ซึ่งจัดทำขึ้นฝ่ายเดียวโดยรัฐบาลฝรั่งเศส
"ไม่อยากให้เกิดความเข้าใจที่ผิดว่าตัวแผนที่หรือบันทึกความเข้าใจเมื่อปี 43 เป็นผลเสียหรือทำให้กระทบกระเทือนต่อสิทธิของเรา ในทางตรงกันข้ามมีการผลักดันไปที่คณะกรรมการมรดกโลกที่ต้องการให้มีการแก้ปัญหาเรื่องเขตแดนเรียบร้อยเสียก่อน"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่มีผู้เสนอให้ไทยไม่เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่บราซิล ช่วงวันที่ 25 ก.ค.-3 ส.ค.นี้ จะไม่เป็นผลดีต่อไทยเพราะเป็นการตัดโอกาสในการแสดงความคิดเห็นและจุดยืน ทำให้คณะกรรมการมรดกโลกได้รับข่าวสารเพียงฝ่ายเดียว
"การคัดค้านหรือเสนอให้มีการเลื่อนไปจนกว่าการดำเนินการเรื่องเขตแดนจะเรียบร้อยจะเป็นแนวทางที่มีเหตุมีผลในการที่จะไปชะลอกระบวนการขึ้นทะเบียน(ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก)หรือทำแผนบริหารจัดการ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หากคณะกรรมการมรดกโลกยังเดินหน้าพิจารณาแผนการบริหารปราสาทพระวิหารต่อไป ไทยยังสามารถที่จะแสดงออกเพื่อรักษาสิทธิไว้ได้ตามเดิม โดยรัฐบาลมีการวางแผนดำเนินการไว้หลายขั้นตอน เช่นกรณีการประชุมครั้งนี้ก็ได้ยื่นคัดค้านการที่กัมพูชาใช้แผนที่ซึ่งจัดทำขึ้นฝ่ายเดียว
"การที่รัฐบาลไปร่วมประชุมเพื่อคัดค้านเป็นเหตุเป็นผลที่จะไปคัดค้านกระบวนการของกัมพูชา หากขั้นตอนนี้ไม่เป็นผล เราก็จะมีมาตรการและวิธีการอื่นๆ ต่อไป...จริงอยู่ความคิดเห็นต่างๆ อาจจะแตกต่างกันไป แต่ขอยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้รักษาประโยชน์เรื่องดินแดนและจะดำเนินการด้วยความรอบคอบ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว