เกาหลีใต้และสหรัฐเริ่มปฏิบัติการซ้อมรบร่วมทางทะเลนอกชายฝั่งทางตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลีในวันนี้ ซึ่งนับเป็นการซ้อมรบร่วมทางทะเลครั้งยิ่งใหญ่ที่จะส่งสัญญาณให้เกาหลีเหนือยุติท่าทียั่วยุ จากกรณีจมเรือรบเกาหลีใต้ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีลูกเรือเสียชีวิต 46 ราย
สำหรับอาวุธยุทโธปกรณ์ที่นำมาซ้อมรบร่วมในช่วง 4 วันนี้ประกอบด้วยเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน เรือรบ 20 ลำ เรือยกพลขึ้นบก Dokdo ขนาดระวาง 14,000 ตัน เรือพิฆาต Choiyoung ขนาดระวาง 4,500 ตัน และเรือดำน้ำขนาดระวาง 1,800 ตัน
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องบินอากาศยาน 200 ลำ ซึ่งประกอบด้วยฝูงบินไล่ล่า F-22 ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องบินกองทัพสหรัฐที่มีแสนยานุภาพสูงสุด เครื่องบินรบ F-18เครื่องบินเตือนภัย E-2C Hawkeye ของสหรัฐ และเครื่องบินรบ F-15K และ KF-16 ของเกาหลีใต้ ตลอดจนทหารและเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศราว 8,000 นายเข้าร่วมปฏิบัติการซ้อมรบร่วมในครั้งนี้
ขณะเดียวกันญี่ปุ่นได้ส่งเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลเข้าสังเกตุการณ์การซ้อมรบร่วมทางทะเลของเกาหลีใต้และสหรัฐ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นได้ส่งเจ้าหน้าที่สังเกตุการณ์ในการซ้อมรบร่วมของทั้งสองประเทศนี้
ทั้งนี้ การปฏิบัติการซ้อมรบร่วมทางทะเลระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐมีขึ้นหลังจากที่คณะทำงานระหว่างประเทศที่ทำหน้าที่สืบสวนเหตุเรือรบของเกาหลีใต้จมลงในทะเลเหลืองระบุว่า เกาหลีเหนือเป็นฝ่ายยิงตอร์ปิโดจมเรือรบของเกาหลีใต้ ขณะที่เกาหลีเหนือปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน