นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐ ออกแถลงการณ์ร่วมแสดงความยินดีที่สหภาพยุโรปและแคนาดาให้ความร่วมมือในการคว่ำบาตรทางการค้าต่ออิหร่าน
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวเป็นการเพิ่มแรงกดดันทางการทูตในการโดดเดี่ยวอิหร่าน ที่ไม่สามารถทำตามข้อตกลงระหว่างประเทศได้
โดยแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า สหรัฐจะยังคงใช้ความพยายามทางการทูตในการแก้ไขความขัดแย้งในเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน และจะให้ความร่วมมือกับพันธมิตรในการใช้ "มาตรการควบคู่กัน" ในการแก้ปัญหากับอิหร่าน
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปและแคนาดาได้ประกาศให้ความร่วมมือกับสหรัฐเพิ่มมาตรการลงโทษทางการค้าต่ออิหร่าน ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นการเพิ่มแรงกดดันนอกเหนือไปจากมติของสหประชาชาติว่าด้วยการคว่ำบาตรทางการค้าปี 2472 และเป็นการคว่ำบาตรต่ออิหร่านครั้งที่ 4 นับจากปี 2549
ในขณะเดียวกัน สถานนีโทรทัศน์ เพรสทีวี ของอิหร่านรายงานว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติและองค์การพลังงานปรมาณูของอิหร่านได้ยื่นจดหมายต่อสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) เรียกร้องให้เปิดการเจรจาแก้ปัญหานิวเคลียร์ครั้งใหม่ โดยในจดหมายระบุว่าอิหร่านพร้อมให้ความร่วมมือในการเจรจาโครงการแลกเปลี่ยนแร่ยูเรเนียม
สำนักข่าว ISNA ของอิหร่านรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายรามิน เมห์มันปาราส โฆษกประจำกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านประกาศพร้อมเปิดเจรจาแก้ปัญหานิวเคลียร์ในทันที