นายกรัฐมนตรี เผยรัฐบาลยังมีความจำเป็นต้องคงประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินสำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ ต่อไปอีก หลังเกิดเหตุระเบิดบริเวณป้ายรถโดยสารประจำทางหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 10 ราย ส่วนพื้นที่อื่นนั้นหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์แล้วเห็นว่ากลับสู่ภาวะปกติแล้วรัฐบาลก็จะทยอยพิจารณายกเลิกต่อไป
"ในพื้นที่กรุงเทพมหานครต้องคง(พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)ไว้อยู่แล้ว แต่เราจะทยอย(ยกเลิก)ในหลายๆพื้นที่" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าว
ปัจจุบันคงเหลือพื้นที่ที่รัฐบาลยังขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หรือกลุ่มคนเสื้อแดง อยู่อีก 16 จังหวัด โดยยกเลิกไปก่อนหน้านี้แล้ว 8 จังหวัด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงต้องเพิ่มความละเอียดรอบคอบมากขึ้น โดยเฉพาะการตรวจตราดูแลพื้นที่เสี่ยง หรือจุดล่อแหลม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่แสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ ส่วนที่มีรายงานการเตรียมก่อเหตุรุนแรงเพิ่มอีก 3 จุดสำหรับพื้นที่ในเมืองนั้นก็เป็นเรื่องรัฐบาลจะต้องทำหน้าที่ดูแลป้องกันต่อไป
สำหรับความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะยึดโยงเรื่องการประกอบระเบิด เนื่องจากสอดคล้องกับ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คือ พื้นที่ สน.นางเลิ้ง และ สน.โคกคราม
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความหละหลวมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่คงไม่มีใครสามารถประเมินได้ว่าจะเกิดเหตุรุนแรงที่ไหน และเมื่อไหร่