สตีเฟ่น สมิธ รัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลียเผยรัฐบาลเตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันและก๊าซของอิหร่าน เพื่อควบคุมการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่าง 2 ประเทศ
สมิธกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ออสเตรเลียจะดำเนินการคว่ำบาตรด้านการเงินต่อบริษัทอิหร่านเพิ่มอีก 98 แห่ง และคว่ำบาตรด้านการเดินทางของเจ้าหน้าที่ 12 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในภาคอุตสาหกรรมการเงินและการขนส่งของอิหร่าน ตามมติฉบับที่ 1929 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
"มาตรการใหม่ที่ประกาศในวันนี้ยังรวมถึงการห้ามซื้อขายอาวุธทุกชนิด รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวกับการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ขีปนาวุธ อาวุธทางเคมีและอาวุธชีวภาพ" นายสมิธ กล่าวพร้อมทั้งเสริมว่ามาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้จะมีผลบังคับต่อบริษัทในเครือของ Islamic Republic of Iran Shipping Line จำนวน 26 แห่ง ซึ่งเป็นผู้ขนส่งสินค้าที่ใช้ในโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ
นอกจากนี้ 17 บริษัทในเครือของธนาคาร Bank Melli หรือ National Bank of Iran ซึ่งอำนวยความสะดวกด้านการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของอิหร่านก็จะถูกคว่ำบาตรด้วยเช่นกัน
สมิธชี้ว่า อิหร่านยังคงกระทำการฝ่าฝืนกฎของนานาชาติอย่างชัดเจน ดังนั้น ออสเตรเลียจึงมีหน้าที่ที่ต้องกำหนดมาตรการคว่ำบาตรที่เร่งด่วนให้สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของนานาชาติและทำให้ประชาคมโลกไว้วางใจต่อเป้าหมายการดำเนินโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลออสเตรเลียประกาศคว่ำบาตรทางการเงินและการเดินทางต่อบริษัทอิหร่าน 2 แห่ง รวมถึงพลเอกรอสตัม คอเซมี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานด้านกองกำลังรักษาการณ์ปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน สำนักข่าวซินหัวรายงาน