นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ระบุเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นฝั่งตรงข้ามคิงพาวเวอร์คอมเพล็กซ์ในซอยรางน้ำเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาจนส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 รายนั้นเป็นการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองเพื่อหวังลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ซึ่งได้สั่งการให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยมากขึ้น
"เป็นเรื่องน่าเสียใจที่มีคนตั้งใจก่อเหตุวุ่นวายเพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทั้งๆ ที่ความจริงมีวิธีอื่นอีกมากมาย แต่ทำไมถึงใช้วิธีที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บ...ผมขอพูดในนามคนไทยทั้งประเทศให้หยุดการกระทำแบบนี้ เพราะไม่ใช่ศัตรูคู่อาฆาตที่ต้องห่ำหั่นทำลายกัน เป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งนั้น" นายสุเทพ กล่าว
เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 จังหวัดที่ยังคงประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ยุติลงไป โดยก่อนหน้านี้เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณป้ายรถโดยสารประจำทางหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีราชดำริเมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 10 ราย
นายสุเทพ กล่าวว่า การประชุม ศอฉ.เมื่อวานนี้ ตนเองได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) สนธิกำลังกับฝ่ายต่างๆ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร(กทม.), อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อพปร.) และประสานขอกำลังจากสารวัตรทหาร 3 เหล่าทัพเข้ามาช่วยกันกวดขันดูแลรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
"ผมได้มอบหมายให้ สตช.เป็นหลักในการสนธิกำลังกับฝ่ายต่างๆ จากเจ้าหน้าที่ กทม. อาสาสมัคร ถ้าจำเป็นก็ขอกำลังจากสารวัตรทหารทั้ง 3 เหล่าทัพมาดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน ขอให้ตำรวจทั้งหลายทำงานให้แข็งแรง" นายุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า การทำงานของหน่วยงานด้านการข่าวยังไม่เป็นที่ถูกใจ ซึ่งที่ประชุม ศอฉ.ได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ในฐานะรอง ผอ.ศอฉ.ดูแลหน่วยข่าวต่างๆ ซึ่งวันนี้จะได้นัดประชุมทุกหน่วยข่าว เพราะที่ผ่านมาหน่วยข่าวของรัฐบาลไม่ค่อยทันเหตุการณ์
"หลังจากนี้การแก้ไขปัญหา วิธีการหาข่าวเพื่อให้ทันเหตุการณ์และป้องกันความรุนแรงได้นั้นจะขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประวิตร แม้หน่วยข่าวของรัฐบาลจะมีหลายหน่วยแต่ก็ต้องทำงานร่วมกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลถือว่ายังมีความล่อแหลมที่จะเกิดความไม่สงบได้ง่าย เพราะมีแกนนำและมวลชนเคลื่อนไหวอยู่ซึ่งต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
"ขอความกรุณาประชาชนให้พิจารณาอย่างรอบด้าน ถ้ามองแค่การคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้จะทำให้เสียความรู้สึก เสียบรรยากาศก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ในภาพรวมถ้าเราสามารถป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงหรือความยุ่งยากวุ่นวายก็น่าจะมีผลดีกว่า รัฐบาลไม่มีเจตนาจะคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ตลอดไป ถ้าสถานการณ์น่าไว้วางใจได้ก็พร้อมจะยกเลิก และยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะใช้อำนาจตามกฎหมาย ถ้าใช้เกินก็จะมีความผิด อย่าเอากรณีที่เป็นความผิดมาหักล้างหลักการใหญ่" นายสุเทพ กล่าว