นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวกับผู้จัดการกองทุนในประเทศ บล.เคที ซิมิโก้ว่า ตั้งเป้าจะพยายามทยอยยกเลิกบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่ที่เหลืออยู่โดยเร็ว แต่ยังไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่นอน โดยจะพยายามบริหารสถานการณ์ให้อยู่ในภาวะที่มีเสถียรภาพ ส่วนตัวไม่คิดว่าจะมีการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไปอีกรอบ และคาดจะมีการเลือกตั้งก่อนที่รัฐบาลจะอยู่ครบเทอม
สาเหตุที่ยังต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในกรุงเทพฯ เพราะยังมีคดีที่เกี่ยวกับเรื่องการเงินอยู่ ถ้ารีบยกเลิกการตรวจสอบเรื่องท่อน้ำเลี้ยงก็จะหลุดไป ซึ่งจะเป็นอุปสรรคมากในการที่จะป้องกันปัญหาในอนาคต จึงต้องคง พ.ร.ก.ไว้ก่อน ส่วนในจังหวัดอื่นก็จะพยายามเร่งยกเลิกและคาดว่าจะทำได้ค่อนข้างที่จะเร็วพอสมควร ท้ายสุดก็จะเหลือที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
"จะพยายามยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยจะดูว่าถ้าระบบการดูแลต่าง ๆ อยู่ตัวมากขึ้นคงจะเป็นไปได้ แต่ก็มีปัจจัยอื่นเยอะมากทำให้ตอบได้ยากว่าอะไรจะเป็นอะไร อย่างไรก็ตามจะพยายามบริหารสถานการณ์ให้อยู่ในภาวะที่มีเสถียรภาพพอสมควร และตั้งเป้าจะยกเลิก พ.ร.ก.ให้เร็ว ขณะที่ก็ยังไม่กล้าที่จะฟันธงว่าจะใช้เวลากี่สัปดาห์หรือกี่เดือน แต่ในใจไม่คิดว่าจะมีการต่อ พ.ร.ก.อีกรอบ ซึ่งจะต้องติดตามดูต่อไป" นายกฯ กล่าวกับคณะผู้จัดการกองทุนฯ
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในประเด็นที่ว่ารัฐบาลจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนครบเทอมหรือไม่ ถ้าจะให้ฟันธงคือไม่อยู่ครบเทอม คงจะมีการเลือกตั้งก่อน คิดว่าเมื่องานปฏิรูปที่คณะกรรมการต่าง ๆ ทำอยู่มีรูปธรรม มีแผนออกมาชัดเจนมากขึ้น และบ้านเมืองเกิดภาวะที่สงบพอสมควรก็คงจะมีการเลือกตั้งเร็วที่กว่ากำหนด แต่ระยะเวลาคงจะไม่เป็นก่อนการตัดสินคดียุบพรรค จะไม่มีการยุบสภาฯ เพื่อไปเกี่ยวกับคดี คิดว่าปีนี้ถ้าเลือกได้คงจะไม่ยุบสภาฯ