พรรคเพื่อไทย(พท.) เลื่อนนัดประชุม ส.ส.เพื่อลงมติขับ ส.ส.งูเห่า ออกไปอีก 1 สัปดาห์ จากเดิมวันที่ 10 ส.ค.ไปเป็นวันที่ 17 ส.ค.เนื่องจาก ส.ส.ติดภารกิจลงพื้นที่ร่วมงานวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน โดยนำร่องเชือด"ปรพล-จุมพฏ"ก่อนเป็นลำดับแรก
"วันที่ 10 สิงหาคม อาจมีปัญหาได้ เนื่องจากเป็นวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน ซึ่ง ส.ส.แต่ละคนอาจจะมีงานในพื้นที่ ทำให้ ส.ส.เข้าร่วมประชุมไม่พร้อมเพรียงจึงคิดว่าพรรคอาจจะนัดประชุมลงมติขับ 2 ส.ส.พ้นสมาชิกพรรคได้ในวันที่ 17 สิงหาคม เพราะจำเป็นจะต้องใช้เสียง ส.ส.รวมกับคณะกรรมการบริหารพรรคในการโหวตใช้เสียง 3 ใน 4 ลงมติขับพ้นสมาชิกภาพ" นายกมล บันไดเพชร กรรมการบริหารพรรค และนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าว
นายกมล กล่าวว่า การที่พรรคภูมิใจไทยแถลงเปิดตัว ส.ส.ที่จะย้ายเข้าพรรคเมื่อวานนี้ดูเหมือนมีความมั่นใจมาก จึงได้กล้าแสดงตัวขนาดนั้น และหาก ส.ส.ทำตัวไม่เหมาะสมเช่นนี้แล้วยังอยู่ได้จะสะท้อนให้เห็นเจตนาว่าต้องการทำลายพรรคการเมืองให้อ่อนแอลงไป เพราะทุกครั้งที่พรรคการเมืองเข้มแข็งมักจะถูกปฎิวัติอยู่เสมอ ทำให้การพัฒนาประเทศไม่เดินไปข้างหน้า สุดท้ายผลประโยชน์ไปตกกับกลุ่มการเมืองและผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ
ด้านนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าจะมี ส.ส.ย้ายเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย 4-5 คน แต่พรรคจะดำเนินการขับออกจากสมาชิกพรรคเพียง 2 คนก่อน คือ ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี และนายจุมพฎ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร เพราะไม่ปฎิบัติตามข้อบังคับพรรค ไม่เคยเข้าร่วมประชุมหรือร่วมทำกิจกรรมของพรรค ไม่ปฎิบัติตามนโยบายพรรค และยังไปร่วมประชุมกับพรรคการเมืองอื่นอย่างเปิดเผย
ทั้งนี้ พรรคจะทำหนังสือแจ้ง ส.ส.ของพรรคอย่างเป็นทางการเป็นรายบุคคลให้เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อลงมติขับ ส.ส.ทั้งสองคนพ้นจากสมาชิกพรรค คาดว่าจะวันที่ 10 หรือวันที่ 17 สิงหาคมนี้ หากมีมติขับก็จะแจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ว่าได้พ้นสมาชิกพรรค จากนั้นจะแจ้งไปยังสภาผู้แทนราษฎรรับทราบว่าเมื่อพ้นจากสมาชิกพรรคก็จะสิ้นสภาพการเป็น ส.ส.ซึ่งหาก ส.ส.ไม่เห็นด้วยก็ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
"เมื่อไม่อยากอยู่กับพรรคเพื่อไทยก็ควรจะลาออกจากพรรคไปเลย เมื่อพ้นจาก ส.ส.ก็จะได้มีการเลือกตั้งซ่อมใหม่ แต่ถ้าไม่ยอมลาออกจากสมาชิกพรรคก็จำเป็นต้องจัดการให้เด็ดขาดให้ชัดเจนถูกต้อง เราไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่น ก็เหมือนเรียนอยู่โรงเรียนหนึ่ง แล้วก็ไปนั่งเรียนอีกโรงเรียนหนึ่ง ทั้งๆที่ควรลาออกให้ชัดเพื่อไปอยู่โรงเรียนนั้นไปเลย จะได้ไม่มีปัญหา" นายปลอดประสพ กล่าว
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงการย้ายที่ทำการพรรคกลับไปใช้อาคารไอเอฟซีทีที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งเป็นที่ทำการเดิมของพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนอีกครั้ง เนื่องจากอาคารบีบีดีบิลดิ้ง ถนนพระราม 4 มีปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอ ทางเข้าออกไม่สะดวก ทำให้ต้องไปเช่าพื้นที่จอดรถข้างเคียง แต่ก็ยังไม่สะดวกเท่าที่ควร จึงต้องหาสถานที่ทำการพรรคฯ ใหม่เพื่อรองรับจำนวน ส.ส.ที่เข้ามาอีกจำนวน 200 คน รวมถึงแกนนำและสมาชิกอีกกว่า 400-500 คน ดังนั้นจึงตัดสินใจย้ายกลับไปใช้อาคารไอเอฟซีที ซึ่งมีความพร้อมทั้งห้องประชุมและที่จอดรถไว้อย่างเพียงพอ คาดว่า จะเข้าไปใช้อาคารดังกล่าวได้ภายใน 1-2 สัปดาห์
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเองได้แจ้งให้ที่ประชุมพรรคทราบว่าได้ให้หมอดูช่วยตรวจสอบเรื่องย้ายที่ทำการพรรคฯ ซึ่งหมอดูบอกว่าตึกไอเอฟซีทีมันแรง เพราะที่ผ่านมามีนายกรัฐมนตรีมา 3 คนแล้ว คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร, นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งตนเองคิดว่ามีโอกาสที่จะได้นายกฯจากพรรคเพื่อไทยอีก
"หมอดูบอกว่าถ้าย้ายกลับตึกเดิมจะสามารถมีนายกรัฐมนตรีได้อีก 3 คน จะอยู่อีกนาน 3 สมัย ถ้าเป็นความจริง ก็น่าเป็นห่วงว่าพรรคประชาธิปัตย์จะอยู่อย่างไร" นายปลอดประสพ กล่าว