"เทพเทือก"วอนอย่าบิดข้อมูล"ประสาทพระวิหาร"ปลุกระดม ขู่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

ข่าวการเมือง Thursday August 5, 2010 12:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ออกมาปรามผู้ที่ออกมาพูดเรื่องปัญหาการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกให้ใช้ความระมัดระวังเรื่องความถูกต้องของข้อมูลที่นำเสนอเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน รวมถึงผู้ที่คิดจะนำมวลชนเดินทางมาชุมนุมกดดันรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาลอาจมีความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

"อยากให้ผู้ที่ออกมาพูดจาเรื่องนี้ให้ข้อมูลที่ชัดเจนถูกต้องกับประชาชน ไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับข้อมูลผิดและเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน" นายสุเทพ กล่าว

ส่วนกรณีที่นายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ประกาศจะนำมวลชนมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลเพื่อประท้วงเรื่องดังกล่าวนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้เรายังมี พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินที่บังคับใช้ ดังนั้นการชุมนุมใดๆ ก็ต้องระวัง ถ้าเข้าข่ายทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

วิธีการที่จะแสดงออกได้ดีที่สุด คือการส่งตัวแทน 3-4 คนนำหนังสือมายื่นกับตนเองหรือนายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลได้รับรู้ว่าพวกท่านคิดกันอย่างไร และขอความกรุณาให้คิดถึงความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองให้มาก เพราะเราต้องช่วยกันเพื่อไม่ให้บ้านเมืองเกิดปัญหา

"ถ้ามีอะไรที่ทำผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินคดี เรื่องที่กลุ่มพันธมิตรประกาศว่าจะมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล 1 คืนถือว่าผิดกฎหมายแน่นอน อย่างนั้นต้องดำเนินคดี ผมพูดเพื่อเป็นการขอร้อง อย่าไปคิดว่าผมท้าทาย เกรงว่าจะไปแปรความหมายผิด อย่าทำอย่างนั้นเลย ผมถึงได้ขอร้องว่าอย่ามา อย่าทำเลย มันเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดปัญหา" นายสุเทพ กล่าว

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชานั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้าและยังต้องรอดูกันอยู่ สิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปเป็นการดูแลปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างดีที่สุดแล้ว การทำหน้าที่ของนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยก็เป็นไปอย่างสมบูรณ์ โดยได้ชี้แจงเหตุผลกับคณะกรรมการมรดกโลกว่าสิ่งที่กัมพูชาดำเนินการนั้นฝ่ายไทยไม่เห็นด้วยอย่างไร จนกระทั่งคณะกรรมการมรดกโลกมีมติให้เลื่อนพิจารณาเรื่องนี้ออกไปในปีหน้า

นายสุเทพ กล่าวว่า การหารือเรื่องดังกล่าวกับรัฐบาลกัมพูชานั้นคงมีช่วงจังหวะเวลาที่สมควร อย่าเพิ่งไปคาดการณ์กันเอง ประเทศไทยไม่ได้สงวนท่าที แต่ทำอย่างจริงใจตรงไปตรงมา สิ่งที่เราได้รับการยอมรับจากสังคมโลก คือประเทศไทยไม่ใช่ประเทศชาติที่กร้าวร้าว แต่รักสงบและพร้อมที่จะอยู่กับประเทศเพื่อนบ้านฉันท์มิตร มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

"การเจรจานั้นผมเชื่อว่าอย่างไรก็ต้องมีการเจรจากัน แต่ต้องดูจังหวะเวลา ขณะนี้ยังร้อนกันอยู่" นายสุเทพ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ