นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากมีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยนำประเด็นการขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทพระวิหารมาเกี่ยวข้องกับการเมือง จะทำให้การบริหารสถานการณ์ระหว่างไทยและกัมพูชาเป็นไปด้วยความยากลำบากยิ่งขึ้น พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเข้ามาช่วยกัน และไม่อยากให้มองว่าเรื่องนี้จะเป็นการแก้ไขปัญหาของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพราะสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ ก็ไม่ได้มีประโยชน์ต่อรัฐบาลแต่อย่างใด แต่เป็นการทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
"ไม่ควรจะมีจุดไหนที่มาผูกขาด การที่มาบอกว่าปกป้องประโยชน์ฝ่ายเดียว ดีที่สุดคือ อย่ามาทำให้เกิดความรู้สึกทะเลาะเบาะแว้งกันเอง ซึ่งรัฐบาลเปิดกว้างในเรื่องนี้อยู่แล้ว และหากมีการชุมนุมเกิดขึ้น การบริหารสถานการณ์ของรัฐบาลจะลำบากยากขึ้น" นายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมยืนยันว่า การดำเนินการของนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อคณะกรรมการมรดกโลกไม่ได้มีเรื่องใดที่ทำให้รัฐบาลหรือประเทศไทยต้องเสียประโยชน์ โดยข้อเสนอของคณะกรรมการมรดกโลก 5 ข้อที่นายสุวิทย์ ได้เซ็นลงนามในบันทึกข้อตกลง(MOU)ไว้นั้น ตนรับทราบอยู่ตลอดเวลา และขณะนี้คณะกรรมการมรดกโลกยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องใดทั้งสิ้น
"อย่ามากล่าวหากันเลย มาร่วมกันทำงานดีกว่า การที่พยายามกล่าวอ้างว่าเสียหน้า ผมไม่ได้เสียหน้า เพราะเอ็มโอยูไม่ได้เกี่ยวกับหน้าผม แต่เอ็มโอยูเป็นประโยชน์ให้คณะกรรมการมรดกโลกยังไม่สามารถพิจารณา(การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก)ได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว