นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในขณะนี้จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อมีการยุบสภาแล้วมีการเลือกตั้งจึงจะตัดสินใจใน 2 แนวทางหลัก คือ การเลือกหัวหน้าพรรค ที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ หรือการใช้รูปแบบคู่ขนาน คือ มีผู้บริหารพรรคส่วนหนึ่ง และมีผู้บริหารรัฐบาลอีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นหากมีใครพูดอะไรจากพรรคเพื่อไทยหลังจากนี้ก็ให้ถือว่าเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล
สำหรับการปรับโครงสร้างในวันนี้ทำได้อยู่ 3 อย่าง คือ การย้ายที่ทำการพรรค เพื่อให้เกิดความสะดวกกับทางสมาชิกและประชาชน เพราะเป็นตึกขนาดใหญ่ที่จะรองรับประชาชนจำนวนมากได้ และจะมีการย้ายกลับไปภายใน 2 อาทิตย์นี้ และสถานที่นั้นเป็นที่ที่มีนายกรัฐมนตรีถึง 3 คน รวมไปถึงฮวงจุ้ยหากจะมีใครยึดมั่นเหตุผลนี้ก็ไม่แปลก
"ถ้าพูดในแง่ไสยศาสตร์นั้น สถานที่ตั้งพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชนเดิม ทำให้เรามีความรู้สึกดี กลับไปอยู่ที่นั่นอาจจะทำให้มีนายกฯได้อีก 2-3 คน"
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยจะมีการแบ่งกลุ่มส.ส.เป็น 3 กลุ่ม ตามสถานการณ์ เนื่องจากเกรงว่าจะมีการเลือกตั้งในเร็ววันนี้ โดยจะแบ่งส.ส.ไปช่วยงานคณะกรรมการบริหารพรรค จับการทุจริต และ จับตาการใช้อำนาจรัฐ
และการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารกิจการพรรค จำนวน 20-25 คน ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ส.ส.อาวุโส คณะกรรมการบริหารพรรค และที่ปรึกษา เพื่อตัดสินใจในเรื่องสำคัญ
นายปลอดประสพ กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายในการเลือกตั้งที่ตั้งไว้ว่าจะได้ส.ส.ประมาณ 250-270 ที่นั่งนั้น มองว่าไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็น เพราะเราไม่หนักใจนโยบายของคู่ต่อสู้แม้แต่น้อย ซ้ำยังพบจุดอ่อน โดยพรรคประชาธิปัตย์มีจุดอ่อน 6 ข้อ คือ 1.ใช้ภาษาบริหารจนได้รับรางวัลสวนทางกับการบริหารเชิงปฏิบัติ 2.ใช้เวลาบริหาร 99 วันไม่เคยทำอะไรเสร็จ 3.ใช้กฎหมายบริหาร ตาย 91 เจ็บ 2,000 ราย 4.ใช้หนี้บริหารจนประเทศใกล้จะล่มจม 5.ใช้กรรมการอิสระบริหาร สุดท้ายก็คุมกันไม่ได้ 6.ใช้ ศอฉ.-พ.ร.ก.ฉุกเฉินบริหารในสภาวะฉุกเฉิน จน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด หรือ เสธ.ไก่อู เรตติ้ง สูงกว่านายกฯไปแล้ว
ส่วนพรรคภูมิใจไทยมีจุดอ่อน 3 ข้อ คือ 1.ดูด 2.หาช่องโกง 3.เป็นอันธพาล ข่มขู่ชาวบ้าน
"ทั้ง 2 พรรคนี้เราไม่ยี่หระ ส่วนพรรคเล็กพรรคน้อย เรารู้ว่าชอบโดยสารไปด้วยซึ่งเราก็ต้อนรับ เพราะรถไฟขบวนของเรายาว ส่วนตัวเชื่อว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะถอดใจแล้ว ไม่เอาแล้ว ท่านบอบช้ำมาพอสมควรแล้ว ครอบครัวคนใกล้ชิดบอกให้พักก่อน รอฟิตเครื่องใหม่ ตนเห็นสีหน้าท่าทาง ท่านก็ฝืนยิ้มอยู่ตลอด ท่านไปพักก่อนดีกว่า ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกตนบ้าง"
ส่วนกรณีที่นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ย้ายไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย ออกมาพูดเรื่องส.ส.ย้ายพรรคนั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า ไม่รู้ว่ามีจริยธรรมแค่ไหน เที่ยวออกมาพูดหน้าตาเฉย ตัวเองย้ายไปไม่พอ ยังบอกว่าคนนั้นคนนี้จะย้ายไปด้วย น่าอายควรหยุดได้แล้ว พฤติกรรมเป็นชู้ทางการเมืองแบบนี้