นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า ที่ประชุมได้มีมติสนับสนุนเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติเคลื่อนไหวในกรณีคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารของประเทศกัมพูชา ซึ่งถือเป็นเรื่องวิกฤติที่สุดในเวลานี้ ขณะที่ยืนยันว่า การชุมนุมดังกล่าวไม่ใช่ภายใต้การนำของพันธมิตรฯ
"เราได้มีการประชุมกันแล้ว เราเห็นด้วยและให้การสนับสนุนกับเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ"
นายสนธิ กล่าวต่อว่า การลงนามรับทราบเอกสารของนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย เป็นการรับรองแผนที่และเอกสารในการยื่นขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารของกัมพูชาทั้งหมด ซึ่งจะไม่มีผลคงเป็นไปไม่ได้ นายสุวิทย์ จะต้องปฏิเสธไม่ยอมลงนามในเอกสารดังกล่าว ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บอกว่าได้ประท้วงการสร้างถนนเข้ามาในพื้นที่เขตแดนไทยถึง 11 ครั้งนั้น แต่กลับเป็นผลให้มีการเสียดินแดนไปแล้ว เพราะกัมพูชาได้นำพลเมืองและมีการสร้างชุมชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่อไปจะเป็นผลให้กัมพูชาสามารถยึดแผนที่ 1:200,000 ใช้ในการยึดพื้นที่เสียดินแดนเพิ่มอีก 1.8 ล้านไร่
"ถ้านายอภิสิทธิ์ ไม่ฟังพันธมิตรฯ ก็ขอให้ฟังผู้อาวุโสอย่าง นายศรีศักดิ์ วัลลิโภดม และนายอดุลย์ วิเชียรเจริญ อดีตประธานคณะกรรมการมรดกโลกบ้าง ก็จะรู้ว่าอะไรคือข้อเท็จจริง " นายสนธิ กล่าว
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) ทางเครือข่ายฯ จะไปชุมนุมที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลในเวลา 08.00 น. เพื่อไปติดตามข้อเสนอแนะว่าเป็นรูปธรรมแล้วบ้างหรือไม่ และถ้าทำได้แค่นี้ควรจะทำยังไงต่อไป
การที่ตนไปร่วมชุมนุมกับเครือข่ายนั้นไปในนามส่วนตัว ซึ่งยังคงยืนยันตามข้อเสนอเดิม 4 ข้อ คือ 1.รัฐบาลจะต้องยกเลิก บันทึกความเข้าใจข้อตกลงระหว่างไทยและกัมพูชา ปี2543 หรือเอ็มโอยู 2.รัฐบาลจะต้องผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ของไทย 3.เอาพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหารคืน 4.ไม่ยอมให้คณะกรรมการมรดกโลกตั้งคณะกรรมการประสานงานระหว่างประเทศ (ICC) 7 ประเทศ
พล.ต.จำลอง ยืนยันว่าไม่ได้ไปทะเลาะกับรัฐบาล แต่ทำในนามของคนไทยหวงแผ่นดินไทย ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีติดต่อเพื่อให้ตัวแทนผู้ชุมนุมเข้าพบในเย็นวันนี้นั้น ตนไม่ทราบว่าใครจะไป แต่ยืนยันว่าไม่ว่าผลจะออกมายังไงก็จะมีการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ เพื่อรับทราบมติของประชาชน