ผู้พิพากษาศาลฎีกา เปิดเผยว่า ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาวันนี้มีมติไม่รับคำร้องอุทธรณ์คดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มูลค่า 4.6 หมื่นล้านบาทให้ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากเห็นว่าหลักฐานที่ฝ่ายผู้ยื่นคำร้องเสนอมาไม่ใช่หลักฐานใหม่ ซึ่งจะมีคำอธิบายทางวิชาการที่ชี้ให้เห็นเหตุผลที่ศาลฯ มีความเห็นดังกล่าว
รายงานข่าว ระบุว่า ในการประชุมวันนี้มีผู้พิพากษาเข้าร่วมประชุม 119 คน โดยมีมติไม่รับอุทธรณ์ 103 เสียง รับอุทธรณ์ 4 เสียง และงดออกเสียง 12 เสียง
ด้านนายฉัตรทิพย์ ตัณฑประศาสน์ ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ในกรณีที่ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาลงมติไม่รับอุทธรณ์คดียึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาทนั้น ในทางกฎหมายก็จะถือว่าคดีเป็นที่สิ้นสุดแล้ว โดยหลังจากนี้คงจะประชุมร่วมกับทีมงานกฎหมายว่าจะมีแนวทางอย่างไรต่อไป
"ตามกฎหมายก็เป็นอย่างนั้น(ถือว่าคดีจบ) ถือว่าเราไปสุดปลายทางแล้ว เพราะเมื่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าอย่างนั้น เราก็ไม่รู้จะไปอุทธรณ์ ฎีกากับใครอีกแล้ว จากนี้ไปคงต้องประชุมหารือกับทีมงานก่อนว่าคงไม่ได้แก้ไขจากคดีนี้แล้ว ต้องไปว่ากันเรื่องใหม่ เพราะเรื่องนี้ในทางกฎหมายถือว่าจบ" นายฉัตรทิพย์ กล่าว