ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ พร้อมครอบครัว เดินทางไปเยือนฟลอริดาเพื่อชมโลมาและว่ายน้ำในบริเวณกัลฟ์ โคสต์ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในท้องถิ่นหลังเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลครั้งใหญ่ในอ่าวเม็กซิโก
ขณะที่บริษัทน้ำมันบีพีใกล้ประสบความสำเร็จในการอุดรอยรั่วบ่อน้ำมันมาคอนโดแบบถาวร ทางรัฐบาลโอบามาก็กำลังเดินหน้าสู่ขั้นต่อไปในการรับมือกับการรั่วไหลของน้ำมัน นั่นคือการทำความสะอาดน้ำมันที่เหลือ การฟื้นฟูแนวชายฝั่งทะเล และการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ซึ่งต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก
โอบามา ภรรยา และ ซาช่า ลูกสาวคนเล็ก ได้ชมโลมาที่อ่าวเซนต์แอนดรูวส์ระหว่างล่องเรือเมื่อเช้านี้ และเพื่อส่งสัญญาณว่าน้ำทะเลปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว เมื่อวานนี้โอบามาและซาช่าได้ลงเล่นน้ำในอ่าวดังกล่าวซึ่งเชื่อมกับอ่าวเม็กซิโก
หลังการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐในท้องถิ่นและผู้ประกอบธุรกิจขนาดย่อมในปานามาซิตีเมื่อวานนี้ โอบามาได้ให้คำมั่นกับประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งว่า เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์
"ตอนนี้ไม่มีน้ำมันไหลลงสู่อ่าวแล้ว แต่หน้าที่ของเรายังไม่จบ และเราจะไม่ไปไหนจนกว่าจะทำหน้าที่เสร็จสมบูรณ์" โอบามา กล่าว
นอกจากนั้นโอบามายังเชิญชวนให้ชาวอเมริกันมาเที่ยวด้วยการยืนยันว่า "ชายหาดตลอดแนวชายฝั่งสะอาด ปลอดภัย และเปิดกว้างสำหรับการทำธุรกิจ" ขณะเดียวกันก็ให้คำมั่นว่าจะทำให้อาหารทะเลมีความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค และจะเร่งกระบวนการเคลมค่าเสียหายให้เร็วขึ้น
เมื่อเดือนที่แล้วมูดีส์วิเคราะห์ว่า เหตุน้ำมันรั่วไหลครั้งนี้อาจทำให้สูญเสียตำแหน่งงานไป 17,000 ตำแหน่ง รวมถึงสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่บทวิเคราะห์ของออกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ ซึ่งได้รับการเปิดเผยโดยสมาคมการท่องเที่ยวแห่งสหรัฐ ระบุว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอาจก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง 2.27 หมื่นล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 3 ปี