รัฐบาลกัมพูชาชี้การใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพื่อกดดันกรณีเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมนั้นไม่ใช้วิธีแก้ปัญหาที่ดี แนะนานาประเทศใช้การเจรจาและทำข้อตกลงเพื่อหาทางออกร่วมกัน
นายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชากล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่กระทรวงต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศว่า นานาประเทศไม่ควรนำมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมาใช้แก้ปัญหา พร้อมทั้งแนะว่า การเจรจาและการทำข้อตกลงร่วมกันน่าจะเป็นการหาทางออกที่ดีกว่า
ขณะเดียวกัน รมว.ต่างประเทศกัมพูชาได้หยิบยกตัวอย่างกรณีที่กัมพูชาได้รับบทเรียนหลังยุคเขมรแดงในปี 2522 ซึ่งเป็นช่วงที่กัมพูชาถูกคว่ำบาตรอย่างหนักก่อนที่จะรอดพ้นช่วงเวลาดังกล่าวจนกระทั่งสามารถพัฒนาประเทศมาได้จนถึงทุกวันนี้
ทั้งนี้ ข้อคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นายฮอร์ นัมฮง เดินทางเยือนอิหร่านเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้มีการลงนามข้อตกลงด้านพลังงานกับอิหร่าน ซึ่งอิหร่านเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และสหประชาชาติออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่กับอิหร่านตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นมา เพื่อหวังที่จะยับยั้งโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมที่หลายฝ่ายกังวลว่าอาจนำไปสู่การผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่รัฐบาลอิหร่านยืนยันว่าโครงการดังกล่าวมีจุดประสงค์ในทางสันติ