นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง ยืนยันว่า กลุ่มนปช.ไม่มีแนวคิดจะกลับมาชุมนุมทางการเมือง แม้จะมีการยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะเชื่อว่าการกลับมาชุมนุมอีกครั้งจะทำให้มีประชาชนทั้งบาดเจ็บ และล้มตายได้อีก
"พวกผมยังไม่คิดเรื่องการชุมนุมในกทม.เลย แม้จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ" นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า ในเรื่องการชุมนุมทางการเมืองนั้นจะเห็นได้ชัดเจนว่ารัฐบาลปฏิบัติอย่างสองมาตรฐานระหว่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับกลุ่ม นปช. ซึ่งหลายครั้งจะเห็นได้ว่ามีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่หน้ารัฐสภา สนามกีฬา หรือแม้แต่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก แต่กลับไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ ขณะที่กลุ่ม นปช.ไปชุมนุมที่ใดก็จะถูกห้ามตลอด
"นายสุเทพ ทำตัวเป็นกฎหมาย พันธมิตรฯ ชุมนุมที่ไหนไม่ผิด แต่เสื้อแดงชุมนุมไม่ได้" นายจตุพร กล่าว
พร้อมกันนี้ จะขอรอดูในวันที่ 26 ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะต้องเข้ามารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ในคดีก่อการร้าย ว่าตำรวจจะดำเนินการอย่างไร และจะเหมือนกับที่ปฏิบัติต่อกลุ่ม นปช.หรือไม่ในกรณีการฝากขัง และการเร่งรัดดำเนินคดี
นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) แถลงผลชันสูตรศพของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองทั้ง 91 ศพว่า การดำเนินการของดีเอสไอที่ผ่านมาผิดขั้นตอนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 148-156 กล่าวคือ ไม่ดำเนินการส่งเรื่องให้อัยการนำสู่ศาลเพื่อดำเนินการไต่สวน แต่กลับดองเรื่องไว้
"ดีเอสไอละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แต่กลับดองเรื่องเอาไว้ เท่ากับเป็นการสมคบการปล้นความยุติธรรมจากคนตาย" นายจตุพร กล่าว
พร้อมกันนี้มองว่า การดำเนินการของดีเอสไอถือว่ามีความพยายามที่จะบิดเบือนข้อมูล เพราะดีเอสไอเองก็เป็นกรรมการอยู่ในศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ซึ่งมีลักษณะเหมือนจะประวิงเวลาไว้ ไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอน แต่เชื่อว่าในอนาคตกฎหมายเหล่านี้จะย้อนกลับมาลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนเอง