"อภิสิทธิ์-เทพเทือก"ยันคดีส่งตัวพ่อค้าอาวุธไปสหรัฐทำตามขั้นตอนกฎหมาย

ข่าวการเมือง Wednesday August 25, 2010 16:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรัฐมนตรี ระบุทางการสหรัฐไม่สามารถกดดันกระบวนการยุติธรรมของไทยให้เร่งพิจารณากรณีคำร้องขอให้ส่งตัวนายวิคเตอร์ บู๊ท ผู้ต้องหาคดีค้าอาวุธสงคราม เป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีในสหรัฐ เนื่องจากยังมีคดีที่เหลือค้างอยู่อีก โดยยืนยันรัฐบาลยึดตามกฎหมายและผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ไม่มีการเตะถ่วงเรื่องดังกล่าวออกไปให้เกินกำหนดเวลา 90 วันตามที่ศาลมีคำสั่งออกมาก่อนหน้านี้

"เราก็ปฏิบัติตามกฎหมาย เครื่องบินก็ต้องมารอ เพราะเรายังมีข้อกฎหมาย ยังคดีความที่สองอยู่ เรื่องนี้เป็นดุลพินิจของเรา ปฏิบัติตามกฎหมายของเรา เรื่องนี้ไม่มีการเตะถ่วง เป็นสิทธิ์ของเรา และเราจะไม่บิดพลิ้ว" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า ทางการสหรัฐจะมีความเข้าใจต่อกระบวนการยุติธรรมของไทยที่ยังพิจารณาไม่เสร็จสิ้น และหากทางทูตสหรัฐสอบถามมาตนเองก็จะชี้แจงตามแนวทางดังกล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังปฏิเสธว่าไม่ได้มอบหมายให้นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ไปพบนายวิคเตอร์ บู๊ท ขณะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ซึ่งตนเองได้สอบถามเรื่องนี้จากนายศิริโชคหลังจากได้ชี้แจงที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้ว

ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า การดำเนินการเรื่องดังกล่าวตรงไปตรงมาตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่มีการเจรจาลับใดๆ กับทางการสหรัฐ แต่ยังมีกรณีคดีอื่นที่สหรัฐได้ร้องขอมาภายหลัง ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอยู่ เรื่องยังไม่จบ ส่วนเครื่องบินสหรัฐที่เข้ามาจอดรอนั้นคงจะเป็นการเตรียมพร้อม ซึ่งอาจจะรีบมาเร็วไปหน่อย และตนเองไม่รู้เรื่องที่นายศิริโชคเข้าไปพบนายวิคเตอร์ บู๊ท ในเรือนจำ

"ผมไม่ทราบว่านายศิริโชคไปพบนายวิคเตอร์ บู๊ทจริงหรือเปล่า ไปในฐานะอะไร ไปทำไม เมื่อไหร่ คุณศิริโชคทำอะไรตั้งหลายอย่างที่ผมไม่รู้เรื่อง เพราะว่าผมไม่ได้มีความผูกพันอะไรกัน นอกจากว่าเป็น ส.ส.พรรคเดียวกัน แต่ถ้าถามว่าผมเกี่ยวข้องกับเรื่องของนายศิริโชคหรือไม่ ยืนยันได้ว่าไม่เกี่ยว ผมรับผิดชอบงานความมั่นคง แต่ว่าคุณศิริโชคไม่ได้ขึ้นกับสายงานผม และคุณศิริโชคไม่ได้รับมอบหมายจากผม และผมก็เชื่อว่าไม่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ดังนั้นผมก็ยังไม่เชื่อว่าคุณศิริโชคไปพบเขาจริงตามที่เป็นข่าว" นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวว่า คดีนี้ไม่มีเรื่องการเมืองเข้าไปแทรกแซงโดยเด็ดขาด รัฐบาลคงไม่เสี่ยงเอาประเทศชาติไปเล่นเกมการเมืองระหว่างประเทศแน่นอน และโดยนิสัยใจคอของนายกฯ ที่สำเร็จการศึกษาด้านกฎหมายมาก็ย่อมรู้ดีว่ากฎเกณฑ์กติกาเป็นอย่างไร

"นิสัยของนายกฯ ท่านไม่ใช้วิธีการอย่างนี้ เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรกับประเทศไทยที่เราจะไปเล่นเกมการเมืองกับชะตากรรมของคนๆ หนึ่ง เพียงแต่ว่าเมื่อมีข้อกล่าวหา ตำรวจสากลแจ้งประสานงานมายังตำรวจไทยและมีการจับกุมเราก็ดำเนินคดี ทั้งสหรัฐและรัสเซียต่างก็มีความเห็นและดำเนินการคนละอย่าง แน่นอนว่าความพยายามที่เขาจะเรียกร้องกดดันอะไรก็มีบ้างเป็นธรรมดา แต่เราไม่ได้หวั่นไหวกับสิ่งเหล่านั้นเลย เพราะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์นำทุกอย่างตามกระบวนการยุติธรรม" นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อศาลวินิจฉัยออกมาแล้วต่างชาติจะเห็นด้วยหรือไม่ก็เรื่องของเขา แต่จะมาบอกว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยไม่ได้มาตรฐานคงไม่ได้

"ยืนยันว่าเราไม่รีบร้อนทำอะไรทั้งสิ้นแต่ทำตามกระบวนการ ให้เอาเครื่องบินมาจอด 5 ลำ 10 ลำก็ไม่สามารถทำให้เราส่งตัวไปวันนี้พรุ่งนี้ได้ เราจะทำตามกระบวนการของเรา เมื่อศาลมีคำสั่งก็เป็นเรื่องของอัยการจะดำเนินการ แต่ยังมีกรณีที่สหรัฐยื่นร้องข้อหาอื่นที่ยื่นมาภายหลัง ซึ่งอัยการจะต้องดำเนินการพิจารณาว่าจะยื่นคำฟ้องต่อหรือไม่ และศาลจะรับฟ้องหรือไม่ ต้องใช้เวลาพิจารณาเท่าไหร่เรามีกระบวนการอยู่ ผมยืนยันว่าเรามีอธิปไตยของชาติเรา เราไม่อยู่ภายใต้อาณัติของใคร เราจะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์กติกาของเรา" นายสุเทพ กล่าว

สำหรับอาวุธที่ตรวจยึดไว้ก่อนหน้านี้ยังเก็บรักษาไว้ ไม่ได้คืนไปให้ใคร และได้รายงานต่อองค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) เมื่อไหร่ที่ยูเอ็นสั่งให้ทำลายก็จะดำเนินการทันที แต่จะส่งคืนให้เฉพาะตัวเครื่องบินที่มีกฎหมายอยู่ และทางบริษัทเครื่องบินมาขอคืนไป เพราะศาลไม่ได้มีคำสั่งให้ริบเครื่องบิน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ