นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ไปเข้าพบนายวิคเตอร์ บูท ผู้ต้องหาค้าอาวุธสงครามที่เรือนจำบางขวางว่า กรณีดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคดีหรือภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรีเลยเพราะว่าไม่ได้มีการดำเนินการอะไรที่ขัดต่อกฎหมาย
"ผมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับกรณีที่คุณศิริโชคไปพบวิคเตอร์ บูท เพราะมันไม่ได้กระทบอะไรต่อคดี"นายสุเทพ กล่าว
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่านายศิริโชค เป็นเลขานุการส่วนตัวนายกรัฐมนตรี อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษ์ของนายกรัฐมนตรีนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ความใกล้ชิดคงจะไปทำอะไรไม่ได้ เพราะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นนักการเมืองที่มีหลักการชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ว่าคนใกล้ชิดคนไหนจะไปทำอะไร ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อนายอภิสิทธิ์
นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เชื่อว่านายสุเทพ เข้าใจในการทำงาน ที่ต้องแยกระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวพร้อมชี้แจงข้อมูลในการประชุมของพรรค
นายศิริโชค ย้ำว่า ส่วนตัวทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ทำหน้าที่ของ ส.ส. ไปเอาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ดังนั้น ต้องแยกแยะเรื่องการไปเอาข้อมูลกับเรื่องของคดีความ ขณะเดียวกันเห็นว่า การที่ไปพบนายวิกเตอร์ บูท จะไม่ทำให้คดีเกิดความบานปลาย รวมทั้งจะไม่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย การที่นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย พยามยามนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็น ก็เพราะต้องการให้กระทบกับกระบวนการยุติธรรม
ส่วนกรณีที่นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการที่ตนไปพบนายวิกเตอร์ บุท นั้น ก็เห็นว่า นายประสพสุข มีหน้าที่ดูแลวุฒิสมาชิก ส่วนตัวเองก็ทำหน้าที่ของ ส.ส. และเชื่อว่านายประสพสุขเข้าใจดีว่ากระบวนการยุติธรรมไม่สามารถแทรกแซงได้