นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวตอบโต้กรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าตนและนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พูดจาเชื่อถือไม่ได้ในกรณีที่นายพร้อมพงศ์ระบุว่าจะมีการวางระเบิดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในเดือนก.ย.และต.ค.
"หากใครพูดไม่จริงจะเป็นเด็กเลี้ยงแกะนั้น นายสุเทพคือต้นแบบ เพราะกุข่าวตั้งแต่เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขนเงิน 30 ล้านบาทเพื่อนำมาใช้ในการเลือกตั้งทางสนามบินสุวรรณภูมิ คนต่างด้าวชุมนุมกับคนเสื้อแดง จะมีการระเบิดกทม.กว่า 60 แห่ง ซัดทอดพ.ต.ท.ทักษิณขนอาวุธเกาหลีเหนือมาให้คนเสื้อแดง การจับเครื่องบินของพ.ต.ท.ทักษิณ และตอนนี้กทม.มีเคจีบีกี่คน ฯลฯ หากนายสุเทพไม่เชื่อตนก็ไม่เป็นไร แต่ตนเชื่อนายสุเทพว่า คนที่สั่งฆ่าประชาชนจะไม่ตายดีสักคน"นายจตุพร กล่าว
ส่วนคดียุบพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายจตุพรกล่าวว่า การที่ตนไปรับฟังการไต่สวนคดีนี้ ตนได้นำเทปคำให้สัมภาษณ์ของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ที่ระบุว่าเงิน 29 ล้านบาทที่ให้ไปนั้นเพื่อเป็นค่าประชาสัมพันธ์พรรคประชาธิปัตย์ เพราะนายประชัยให้การไม่ตรงกับศาลรัฐธรรมนูญ และนายประจวบ สังข์ขาวก็ให้การโดยไม่มีการกลับคำให้การเลย เรื่องนี้น่าสังเกตว่าฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์มุ่งทำลายน้ำหนักพยานมากกว่าเนื้อหาเพราะรู้ว่าเนื้อหาคดีนี้ พรรคประชาธิปัตย์แก้ต่างและหักล้างไม่ได้ จึงเลี่ยงไปทำลายน้ำหนักของพยานแทน
ส่วนกรณีนายวิคเตอร์ บูทนั้น เห็นชัดว่า ความผิดสำเร็จแล้วเพราะนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์สารภาพแล้วว่าไปพบนายบูทจริง และภรรยานายบูทระบุเหตุผลที่นายศิริโชคไปพบนายบูทชัดเจน เรื่องนี้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสิ้น วันนี้นายอภิสิทธิ์ยังอุ้มนายศิริโชคเช่นเดิมทั้งๆที่ความผิดสำเร็จและนายศิริโชคไม่มีสิทธิไปพบนายบูทในวันหยุด หากวันปกตินั้นนายศิริโชคจะไปเยี่ยมนายบูทได้ในช่องทางเยี่ยมญาติและจะไปพบในช่องทางทนายความไม่ได้ แม้การเบี่ยงเบนคดีก็ไม่สำเร็จเพราะทนายความของนายบูทที่สนิทกับพรรคประชาธิปัตย์อ้างว่าไปเยี่ยมนายบูทกับนายศิริโชคด้วยนั้นแต่นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ระบุว่านายศิริโชคไปพบนายบูทเพียงคนเดียว การพูดกลับไปกลับมาแบบนี้นั้น ข้อเท็จจริงคือนายศิริโชคไม่มีสิทธิไปพบนายบูทได้ในช่วงวันหยุดและความผิดสำเร็จแล้ว