ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีต รมว.มหาดไทย ระบุการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทยในปีนี้ฉีกธรรมเนียมปฏิบัติในอดีตที่ยึดถือเรื่องความอาวุโสและความสามารถ เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายในยุคของนายชวรัตน์ ชาญวีรกุล เป็น รมว.มหาดไทย ค่อนข้างพิสดาร ไม่ยึดระบบอาวุโสและความสามารถ แต่เป็นการแต่งตั้งตามใจชอบและคนใกล้ชิด
"หากคนใดเคยรับราชการในจังหวัดบุรีรัมย์มักจะเติบโตแบบตอนกิ่งที่ไม่โตจากเมล็ด สมัยที่ผมเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยจะยึดหลักว่าคนที่จะเป็นผู้ว่าฯ ได้นั้นต้องเป็นรองผู้ว่าฯ มาแล้วสองปี มีผลงานความสามารถ ไม่เคยคิดว่าจะเป็นคนของใครหรือเป็นศัตรูใคร แต่วันนี้หลักการนี้หายไปหมด บางคนเป็นรองผู้ว่าฯปีเดียวก็นำมาพิจารณาให้เป็นผู้ว่าฯได้แล้ว กระทรวงมหาดไทยยุคนี้เปลี่ยนจากบำบัดทุกข์บำรุงสุข มาเป็นสร้างทุกข์บำบัดสุข หากข้าราชการเติบโตด้วยการวิ่งเต้นและแสวงหาผลประโยชน์ บ้านเมืองจะลำบาก" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้ายในปีนี้จึงสร้างความแตกร้าวในกระทรวงมหาดไทยมากขึ้น คนแต่งตั้งใช้ทฤษฎีการเมืองย้อนหลังเมื่อช่วงยี่สิบปีก่อน โดยหวังผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งเชื่อว่าจะไม่ทำให้ได้รับเลือกตั้งมากขึ้นตามที่หวังไว้
"การจัดตั้งอย่างเดียวนั้นไม่สามารถชนะเลือกตั้งได้ เพราะมันต้องบวกกระแสเข้าไปด้วย สุดท้ายเชื่อว่าพรรคการเมืองพรรคนี้(ภูมิใจไทย)จะได้ ส.ส.ต่ำสิบในการเลือกตั้งครั้งหน้าแน่นอน" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เชื่อว่า การแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าฯ ในปีนี้ต้องมีการซื้อขายตำแหน่งกันอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นจะไม่มีการเหาะลอยข้ามห้วยกันอย่างนี้ การให้รองผู้ว่าฯ ที่เพิ่งทำงานหนึ่งปีเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ นั้นถือว่าอันตราย เพราะระบบแต่งตั้งจะเสียหายหมด ซึ่งตนเองเห็นด้วยกับนายพงศ์พโยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ออกมาเรียกร้องให้ผู้ว่าฯ ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้
"น่าจะตั้งโต๊ะสัมภาษณ์แบบหมู่คณะเพื่อดูว่ารัฐมนตรีมหาดไทยจะว่าอย่างไร และจะย้ายผู้ว่าฯไปไหนได้หมดเพราะตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงนี้มีไม่ถึงสามสิบตำแหน่ง ข้าราชการต้องอารยะขัดขืนเพราะเป็นช่วงปลายน้ำของรัฐบาลนี้แล้ว อย่ากลัว" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ส่วนกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่าจะคนจ้องก่อวินาศกรรมสถานีรถไฟใต้ดินนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า มีคนกลุ่มหนึ่งหวังที่จะซ้ำเติมสถานการณ์เพื่อให้เลื่อนเวลาที่จะจัดการเลือกตั้งใหม่ หรือไม่ให้มีการเลือกตั้งในช่วงเวลานี้ แต่ตนเองไม่กล้าฟันธงว่าเป็นฝีมือกลุ่มใด หากมองเรื่องราวเพียงชั้นเดียวจะพุ่งเป้ามาที่พรรคเพื่อไทย เพราะทราบว่าคนกลุ่มนี้ได้นำซีดีหนึ่งล้านแผ่นที่มีเนื้อหาใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าไม่จงรักภักดีต่อสถาบันฯ ไปแจกในพื้นที่ภาคอีสานแล้วไม่มีใครสนใจ คนกลุ่มนี้จึงพยายามจัดทำหนังสือ 2.5 ล้านเล่ม ที่มีเนื้อหาทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยว่าเป็นขบวนการล้มเจ้า
"อย่าไปสงสัยว่าเป็นฝีมือของตำรวจหรือทหาร เพราะมันไม่ใช่เลย คนที่ลงมือทำนั้นเป็นพวกที่นิยมจัดทำโพลล์สำรวจ พอรู้ว่ากระแสไม่ดีก็พยายามที่จะทำให้ไม่มีการเลือกตั้ง" ร.ต.อ.เฉิลิม กล่าว
อย่างไรก็ตาม ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เชื่อว่า การเลือกตั้งใหม่จะมีขึ้นราวเดือน เม.ย.54
ด้านนายพร้อมพงศ์ ยืนยันว่า ความพยายามที่จะเหตุรุนแรงเป็นเรื่องจริง เพราะมีกลุ่มอำนาจใหม่คือสีเขียวกับนักการเมืองที่มีเงินและบารมี รวมทั้งคนในรัฐบาล เพราะได้ติดตามเหตุระเบิดในช่วงที่ผ่านมาหลายครั้งพบว่าทำไมยังไม่สามารถจับตัวคนผิดมาลงโทษได้เลย
"วันนี้กลุ่มที่ก่อการยังไม่มีความเกรงกลัวใดๆ และย่ามใจก่อเหตุอีก หากปล่อยไว้ให้เกิดเหตุแบบต่อเนื่องก็อาจเป็นเรื่องใหญ่ตามที่คาดการณ์ว่าอาจมีการก่อวินาศกรรมรถไฟฟ้าใต้ดิน" นายพร้อมพงศ์ กล่าว