นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลงานของกรมประชาสัมพันธ์ ระบุกรณีคนร้ายใช้ระเบิด M79 ยิงใส่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11(NBT) เมื่อช่วงบ่ายวานนี้(31 ส.ค.) น่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบที่มั่งไปยังสถานที่เชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองมากกว่าความไม่พอใจเกี่ยวกับการนำเสนอรายการที่มีเนื้อหารุนแรง
"ไม่น่าจะมีสาเหตุมาจากการทำงานของช่อง 11 หรือการนำเสนอรายการที่มีเนื้อหารุนแรงตามที่หลายฝ่ายวิเคราะห์กัน แม้บางรายการอาจมีเนื้อหาที่รุนแรงบ้าง เนื่องจากเอ็นบีทีมีความนโยบายที่จะเปิดพื้นที่ให้แก่ภาคส่วนต่างๆ อย่างหลากหลาย เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากเอ็นบีทีถือเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองมากกว่า" นายองอาจ กล่าว
ส่วนความคืบหน้าของคดีดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้เร่งรัดดำเนินการสืบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไม่ใช่แค่เหตุระเบิดที่เอ็นบีทีเท่านั้น แต่รวมถึงเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ กทม.ด้วย
"เบื้องต้นได้ประสานไปยังผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) ให้ส่งสายตรวจเพิ่มกำลังดูแลความเรียบร้อยให้มากขึ้น รวมไปถึงในส่วนของสาขาของสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ในต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าจะมีการก่อเหตุ แต่ผมได้กำชับไปยังผู้อำนวยการสถานี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนรักษาความปลอดภัยให้เฝ้าระวังตรวจตราเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพนักงานด้วย" นายองอาจ กล่าว
สำหรับการจัดรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ในวันที่ 5 ก.ย.นี้ จะเป็นการถ่ายทอดสดมาจากประเทศจีน เนื่องจากนายกรัฐมนตรีอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเดินทางไปเยือน และร่วมชมงานเวิลด์เอ็กซ์โปที่เมืองเซี่ยงไฮ้
นายองอาจ กล่าวว่า ตนเองไม่เห็นด้วยที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) จะสั่งปิดสื่อหนังสือพิมพ์ของกลุ่ม นปช.เนื่องจากนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนข้อเท็จจริง แต่อยากให้ดำเนินการตามขั้นตอนตามของกฎหมาย
"หากมีการนำเสนอข้อมูลที่เข้าข่ายยุยงให้เกิดความรุนแรงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายว่ากระทำความผิดตามมาตราใด แต่หากไม่ได้นำเสนอรุนแรงบิดเบือนสร้างความแตกแยกก็ต้องปล่อยให้ทำหน้าที่ต่อไป" นายองอาจ กล่าว