นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ออกแถลงการณ์ในนามของพรรคเพื่อไทย ซึ่งระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องมีการพบปะเพื่อพูดจากัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่มคนเสื้อเหลือง พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย และหน่วยงานอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งไม่สามารถยืดเวลาได้ออกไปอีกแล้ว โดยใครที่มีส่วนร่วมก็ต้องช่วยกันออกแรงคนละเล็กคนละน้อย เพื่อประเทศจะสามารถอยู่ร่วมกันได้
"แถลงการณ์ฉบับนี้ถือว่าเป็นทั้งการทอดสันถวไมตรี และเป็นการยื่นคำขาดไปในตัวด้วย และที่เราเสนอแนะเช่นนี้ ไม่ได้เป็นเกมการเมืองใดๆ แต่ที่เสนอแนะทั้งหมดก็เพราะมีหลายฝ่ายขอร้อง แล้วเราก็เห็นถึงความขัดแย้งที่มีมากขึ้น แต่หากข้อเสนอนี้ไม่ได้รับการตอบรับจากคนในรัฐบาล ก็ต้องบอกว่า ตัวใครตัวมัน เพราะเรียมก็เหลือทนแล้วเหมือนกัน”นายปลอดประสพกล่าว
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าความสงบในชาติจะกลับมาและคนไทยสามารถอยู่ด้วยกันอย่างสามัคคีได้ ด้วยทุกฝ่ายต้องให้อภัยซึ่งกันและกัน และตกลงที่จะอยู่ด้วยกันอย่างสันติ เสมอภาคและยุติธรรม นอกจากนี้ทุกฝ่ายจะต้องหยุดการใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม รวมไปถึงพรรคเพื่อไทยด้วยที่จะเริ่มต้นกระทำตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เช่นการกล่าวหากันด้วยวาจาโดยไม่มีมูลของข้อเท็จจริง แต่คงจะไม่มีการลดภาระหน้าที่ของโฆษกของพรรคลง แต่จะต้องมีการพูดจากที่ยืนอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดี เพราะหากปล่อยไปเช่นนี้จะไม่มีทางออกของประเทศ หรือการกระทำที่มุ่งแต่จะทำร้ายกัน หรือแม้แต่การใช้ตัวบทกฎหมายที่เกินความเหมาะสม
"สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้มาถึงจุดเปราะบางที่สุดแล้ว ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง ประเทศไทยคงจะต้องเจอกันวิกฤตการณ์มากกว่านี้ เพราะฉะนั้นวันนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำอะไรบางอย่าง จากเหตุการณ์อันเศร้าสลดจากโศกนาถกรรมเมื่อวันที่ 10 เมษายน และ 19 พฤษภาคม 2553 ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บกับประชาชนจำนวนมาก ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทหารและทรัพย์อีกเป็นจำนวนมหาศาล
ทางพรรคเพื่อไทยเองก็เฝ้าติดตามเหตุการณ์ต่าง ๆ ด้วยความหวังว่าเมื่อวันเวลาผ่านไป ทุกสิ่งทุกอย่างจะค่อย ๆ ปรับตัวให้ดีขึ้นจนกลับสู่สภาพเดิมได้ แต่ข้อเท็จจริงกลับปรากฎว่าความร้าวฉานในความคิดและความเข้าใจของผู้ที่เกี่ยวข้องกลับยิ่งแตกแยกมาก ทางพรรคจึงมีความวิตกว่าทุกอย่างจะไม่สามารถกลับคือสู่ความสามัคคีในสังคมไทยได้อีกต่อไป แต่วันนี้พรรคเพื่อไทยได้มองเห็นประกายบางอย่างเกิดขึ้น เมื่อได้พบว่ามีคณะบุคคลที่เคารพนับถือ คณะองค์กรระหว่างประเทศ และทูตจากประเทศต่างที่เข้ามาให้การช่วยเหลือสังคมไทย รวมไปถึงรัฐบาลเริ่มที่จะเข้าใจความเป็นจริงมากขึ้น"
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเสนอจุดยืนและข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล 5 ข้อ คือ 1. พรรคเพื่อไทยเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการพูดจาหารือแลกเปลี่ยนความคิดและความเชื่อระหว่างกลุ่มที่มีความขัดแย้งกันอย่างสันติวิธี
2.พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าความสงบ สามัคคี และความเป็นชาติจะกลับคืนมาได้ด้วยการที่ทุกฝ่ายให้อภัยซึ่งกันและกัน และตกลงว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เสมอภาคและมีความยุติธรรม โดยอาจจะพัฒนาจากคำพูดไปเป็นขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งจากในอดีตที่ผ่านมาปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติก็ต้องแก้ไขด้วยรูปแบบนี้
3.พรรคเพื่อไทย ขอเชิญชวนให้ทุกหมู่เหล่าหลีกเลี่ยงและละเว้นจากการใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะจากวาจา การกระทำ หรือการใช้กฎหมายที่เกินความเหมาะสม 4. พรรคเพื่อไทยขอน้อยถวายพระพรชัยมงคลต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชีนีนาถ และให้ปวงชนทุกหมู่เทิดทูนถวายพระเกียรติ
และ 5.พรรคเพื่อไทยหวังและเชื่อว่าจุดยืนและสัจจะวาจาของเราครั้งนี้ จะช่วยให้รัฐบาลและผู้มีส่วนรับผิดชอบต่อความสงบได้คลายวิตก และเริ่มกระบวนการสมานฉันท์ได้ทันที โดยไม่ต้องรอการศึกษาใดๆให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์อีก