นายชูศักดิ์ ศิรินิล อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน(พปช.) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวโดยตั้งข้อสังเกตการไต่สวนคดียุบพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ โดยเห็นว่าทีมทนายพรรคประชาธิปัตย์ซักค้านพยานในประเด็นเรื่องส่วนตัวของพยานบุคคล และพาดพิงให้บุคคลที่สาม ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดีได้รับความเสียหาย
การกระทำดังกล่าวเห็นว่าเกินกว่าความจำเป็นในการค้นหาข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์ทำผิดใน 3 ประเด็นหลักคือ 1.มีการนำเงินที่ได้มาจากบริษัทซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มาใช้ในกิจการของพรรคโดยไม่ถูกต้อง และใช้หลักฐานใบเสร็จรับเงินแสดงการจ่ายเงินซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง แสดงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อให้กกต.เข้าใจว่า ปชป.ได้ใช้จ่ายเงินสนับสนุนตามที่ได้รับอนุมัติ 2.ไม่ได้ใช้จ่ายเงินสนับสนุนตามที่ได้รับอนุมัติโครงการจาก กกต.และ 3.จัดทำรายงานการใช้จ่ายเงินไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ทีมทนายพรรคประชาธิปัตย์ตั้งคำถามค้านดึงดูดความสนใจในบางประเด็นว่า พยานพักอยู่กับลูกน้องของใครหรือไม่ พยานนามสกุล ณ ป้อมเพชร เกี่ยวข้องกับการเป็นญาติใคร ซึ่งไม่ใช่ประเด็นสำคัญในคดี ทั้งที่ควรซักถามในเนื้อหาเรื่องแผนผังเส้นทางการเงินว่ากระจายไปสู่กลุ่มบุคคลใดบ้าง
อย่างไรดี เชื่อว่าการพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์น่าจะเสร็จก่อนสิ้นปี
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าหากการไต่สวนพยานทั้ง 2 ฝ่ายใกล้เสร็จสิ้น และเมื่อแกนนำรัฐบาลเริ่มเห็นทิศทางว่าผลจะออกอย่างไร ก็เชื่อว่าจะมีการยุบสภาก่อนการยุบพรรค เนื่องจากฝ่ายผู้ถืออำนาจจะได้จัดวางบุคลากร และองคาพยพใหม่เพื่อไม่ให้แกนนำพรรคที่จะอาจถูกลงโทษตัดสิทธิ 5 ปีได้รับผลกระทบ