นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการติดตามนโยบายโครงการสร้างความปรองดอง ที่จ.แม่ฮ่องสอน ตามโครงการ "โฆษกสัญจร ที่นี่แมฮ่องสอน บ้านของพ่อ เมืองแห่งความสุข" ว่า จ.แม่ฮ่องสอน ถือเป็นจุดหนึ่งที่เป็นตัวอย่างในเรื่องของการสร้างความปรองดอง เนื่องจากมีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่น มีความหลากหลายของประชาชนหลายเผ่าอยู่ร่วมกัน ขณะที่มีความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน แต่กลับไม่พบความแตกแยกรุนแรงเหมือนพื้นที่อื่น ประชาชนสามารถอยู่ร่วมกันได้
จากการรับฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่พบว่า สอดคล้องต้องกันกับผลสำรวจของรัฐบาลที่ออกมาก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย 1. ปัญหาความเหลื่อมล้ำในเรื่องของการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่ ที่ดินและแหล่งน้ำ 2. ปัญหาความเหลื่อมล้ำในเรื่องของการสัญจรเดินทางเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ห่างไกล 3. เรื่องความเหลื่อมล้ำในเรื่องคุณภาพการศึกษาและสาธารณสุข
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ประเด็นเหล่านี้ที่ได้ข้อสรุป หากเรื่องใดสามารถดำเนินการ รัฐบาลก็จะดำเนินการได้ทันที เหมือนที่ผ่านๆ มา คือถ้ารับรู้ว่าพื้นที่ไหน มีปัญหาอะไรและทำได้ ก็จะดำเนินการทันที
ส่วนข้อสรุปที่ได้ทั้งหมดก็จะนำไปรวบรวมในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. เพื่อเสนอให้นายกรัฐมนตรี นำไปประชุมระดมความเห็นอีกครั้งก่อนที่จะตกผลึกเป็นข้อสรุปที่นายกฯ จะประกาศได้ในวันที่ 1 ม.ค. 54
ต่อข้อซักถามว่า เลยโมเดล ปายโมเดล หรือที่ อ.เมือง แม่ฮ่องสอน ไม่มีขัดแย้งรุนแรง แต่ขณะที่พื้นที่อื่นๆ มีความขัดแย้งรุนแรง จะทำอย่างไร นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องทยอยดำเนินการไปเรื่อยๆ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ แต่เริ่มจากจุดที่มีความขัดแย้ง และสามารถสร้างความปรองดองได้รวดเร็วก่อน โดยจะนำความสำเร็จจากพื้นที่ อย่าง ปายหรือเลยโมเดลไปให้พื้นที่อื่นเห็นเป็นตัวอย่าง ซึ่งรัฐบาลจะเร่งผลักดันให้เป็นพลังที่จะสร้างความปรองดองให้ประเทศชาติอยู่เย็นเป็นสุข