นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย(พท.) มองว่ารัฐบาลไม่จริงใจและมีการตั้งเงื่อนไขที่จะเข้าสู่แผนการปรองดอง 5 ข้อนั้น ตนจะไม่ขอตอบโต้ฝ่ายค้านเรื่องนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปอีก แต่ยืนยันว่ารัฐบาลตั้งใจจะทำให้สำเร็จตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนวิธีการหรือขั้นตอนเจรจากับแต่ละกลุ่มจะแตกต่างกันไปเป็นรายกรณี
"ผมนี่นะครับไม่จริงใจ ตลอดเวลาที่ทำงานการเมืองก็จริงใจ เปิดเผย ก็รู้ก็เห็นกันอยู่" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
ขณะที่การเจรจากับฝ่ายค้านหรือไม่นั้น คิดว่าเรื่องที่คุยคงไม่น่าจะมีอะไรมาก เพียงแต่ขอให้แต่ละกลุ่มหารือเป็นการภายในให้มีข้อยุติเป็นที่เรียบร้อยก่อนที่จะมาคุยกัน
ส่วนที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ขอให้นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิตในเหตุชุมนุมทางการเมืองในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.53 นั้น ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กำลังดำเนินการตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ที่ต้องให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ซึ่งดีเอสไอได้ตั้งทีมสอบสวน 12 ชุด เพื่อหาหลักฐานและรายละเอียดต่างๆ ในการเสียชีวิตของผู้ชุมนุมทั้งหมด 89 ราย ส่วนอีก 2 รายเป็นการเสียชีวิตในต่างจังหวัดซึ่งจะไม่นับรวมอยู่ในกลุ่มนี้
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณีการชี้แจงต่อทางการซาอุดิอาระเบียเรื่องการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม จากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผช.ผบ.ตร.) ว่า ได้อธิบายและชี้แจงให้อุปทูตซาอุดิอาระเบียไปอย่างชัดเจนแล้ว ทั้งนี้จะได้ทำบันทึกพร้อมคำแปลระเบียบของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) จัดส่งให้ทางการซาอุฯ รับทราบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรถึงระเบียบและขั้นตอนการแต่งตั้งดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด เป็นไปตามขั้นตอนและระเบียบปฏิบัติทุกประการ จึงไม่น่าจะส่งผลต่อปัญหาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศให้มีความขัดแย้งมากขึ้น ขณะเดียวกันการแต่งตั้งในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อคดีเพชรซาอุฯ ที่พล.ต.ท.สมคิด ได้ตกเป็นจำเลย เพราะเป็นเรื่องที่ดีเอสไอได้เสนอหลักฐานใหม่เข้าสู่กระบวนการของศาล และคงไม่มีใครสามารถเข้าไปแทรกแซงกระบวนการทางศาลได้