นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอบกระทู้ในสภาฯ ถึงการดำเนินการของรัฐบาลไทยต่อกรณีเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดิอาระเบียและคดีความของพล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผช.ผบ.ตร.นั้นได้ยึดหลักในเรื่องของการสานความสัมพันธ์ระหว่าประเทศควบคู่ไปกับการจัดการให้เกิดความถูกต้องตามกฎหมาย โดยย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ผลประโยชน์ต่างตอบแทน ซึ่งการแต่งตั้งให้พล.ต.ท.สมคิดเป็นผช. ผบ.ตร. ก็เป็นไปตามระเบียบของ ก.ตร. และเป็นการเรียงลำดับอาวุโส
"ถ้าท่านถามผมว่าการดำเนินการของทางรัฐบาลจะเลือกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือตัวบุคคล ผมตอบได้เลยว่า ผมเลือกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแต่ก็จะทำงานควบคู่ไปกับระบบความถูกต้องทางกฎหมายและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย"นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ นายกฯ ยอมรับว่า จุฬาราชมนตรีได้ยกเลิกการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ซาอุดิอาระเบียจริง แต่เป็นการตัดสินใจยกเลิกการเดินทางด้วยตัวท่านเอง และเป็นการตัดสินใจก่อนที่จะมีมติ ก.ตร.ออกมา พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะดูแลและอำนวยความสะดวกให้ชาวไทยมุสลิม สามารถเดินทางไปแสวงบุญและประกอบพิธิฮัจญ์ได้
พร้อมกันนี้ ยอมรับว่าในขณะนี้ทางรัฐบาลซาอุฯ อาจเกิดความกังวลใจ แต่นายกฯ ยืนยันว่าความกังวลใจของซาอุฯ เกิดจากที่มีเรื่อง พล.ต.ท.สมคิด เข้ามา โดยทางซาอุฯ เกรงว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นอุปสรรคที่จะมีส่วนช่วยในการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุฯ แต่รัฐบาลก็จะเดินหน้าในการทำความเข้าใจ ซึ่งก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่ต้องเร่งกระชับความสัมพันธ์ไม่เฉพาะซาอุฯ แต่รวมถึงประเทศในแถบตะวันออกกลางด้วย เพราะถือว่าประเทศในกลุ่มนี้มีส่วนสำคัญที่ไทยจะสามารถเข้าไปลงทุน รวมถึงพัฒนาความก้าวหน้าทางการค้าได้