ประธานคณะกรรมการประสานงาน(วิป)พรรคร่วมรัฐบาล เผยที่ประชุมฯ มีมติให้เลื่อนวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม(กสทช.) มาพิจารณาในวันพรุ่งนี้(23 ก.ย.)
"แม้ที่ประชุมสภาฯ จะมีมติให้เลื่อนขึ้นมาตามข้อเสนอของวิปรัฐบาล แต่ตามข้อบังคับไม่สามารถพิจารณาได้ทันทีจึงต้องพิจารณาในวันต่อไป คือ วันที่ 23 กันยายน"นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่าจะเรน่งผลักดันกฎหมายดังกล่าวให้ออกมาบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อผลักดันโครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G หลังเกิดปัญหา กทช.ต้องระงับการประมูลใบอนุญาตดังกล่าวตามคำสั่งศาลปกครองกลาง
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า วิปรัฐบาลมีความเห็นร่วมกันว่าการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ของวุฒิสภานั้นมากเกินกว่าความจำเป็น ทำให้วิปรัฐบาลไม่สามารถรับได้ และจะเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกันระหว่างสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อพิจารณาแก้ไขอีกครั้งหลังจากวุฒิสภาได้มีการแก้ไขมาแล้ว
"วันนี้วิปรัฐบาลจะขอให้ที่ประชุมสภาฯ มีมติเลื่อนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ที่อยู่ในวาระที่ 11 ขึ้นมาพิจารณาต่อจากการพิจารณรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับรายชื่อเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.)"นายวิทยา กล่าว
ประธานวิปรัฐบาล คาดว่า เมื่อมีการตั้ง กมธ.ร่วมสองสภาฯ แล้วจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือนในการพิจารณาแก้ไขเนื้อหาและส่งให้ทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาพิจารณา โดยในขั้นตอนนี้วิปรัฐบาลจะประสานงานไปยังรัฐบาลเพื่อให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ามาร่วมเป็น กมธ.ด้วย
อย่างไรก็ตาม หากมีการแก้ไขแล้วแต่สภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นด้วยกับถ้อยคำที่ กมธ.ร่วมฯ แก้ไข สภาผู้แทนราษฎรก็สามารถมีมติไม่เห็นด้วยและยืนยันตามร่าง พ.ร.บ.เดิมที่มีการส่งให้สภาฯผู้แทนราษฎรจารณาในวาระแรก
ส่วนประเด็นเรื่องคณะกรรมการกำกับกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) มีอำนาจจัดการประมูลในอนุญาต 3G หรือไม่นั้น นายวิทยา กล่าวว่า ระหว่างที่กฎหมายยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา วิปรัฐบาลไม่ได้มีการหยิบยกขึ้นมาหารือเพราะเป็นคดีที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครอง