นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.)เรียกร้องนายกรัฐมนตรีเปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทยได้เข้าไปพูดคุยหาแนวทางปรองดองที่เป็นรูปธรรม ภายหลังจากกลับมาจากต่างประเทศ เพราะความปรองดองจะเกิดขึ้นไม่ได้หากพรรคใหญ่ 2 พรรคทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ไม่ร่วมมือหาทางออก
ที่ผ่านมามีเพียง พล.ต.สนั่น เพียงคนเดียวที่เดินสายพบปะพูดคุยกับคนกลุ่มต่างๆ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวในนามส่วนตัว แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่คุมเสียงข้างมากในสภา กลับไม่เคยแสดงท่าทีที่ชัดเจนในการร่วมกันให้เกิดความปรองดองขึ้น จะมีเพียงโรดแมป 5 ข้อแล้วตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทยที่มีอายุยาวนานถึง 3 ปีแล้วยังไม่มีแนวทางอะไรที่เป็นรูปธรรมแสดงให้เห็นถึงการตีโจทย์ไม่แตก
"หากนายกรัฐมนตรีไม่ร่วมมือ เท่ากับว่าเป็นการซื้อเวลาและไม่สร้างประโยชน์ให้ประชาชน ซึ่งหากทำได้จะเป็นผลงานชิ้นสำคัญของรัฐบาล" นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่าแผนปรองดองที่คุยกันก็เหมือนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยพูดว่าการปรองดองต้องเริ่มคุยกันก่อน ถ้าไม่คุยกันก่อน แผนอื่นๆ ไม่ขับเคลื่อน แผนปรองดองที่นายอภิสิทธิ์เดินไว้เดิมคือ จะให้ยุบสภาในวันที่ 14 พฤศจิกายน และวันนี้แผนดังกล่าวถูกยกเลิกไป ดังนั้น ต่อไปถ้าคุยกันได้ ต้องนำสู่การยุบสภา ให้มีการเลือกตั้ง
"วันนี้ พล.ต.สนั่น แผ้วถางทาง ส่วนคนที่จะเอาหินมาเท หรือเอาคอนกรีตมาราด คือเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ และขึ้นกับความจริงใจของนายอภิสิทธิ์ ที่จะร่วมกับเพื่อไทยสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กนี้ ถ้าทำได้ต่อไปก็เรียกมาคุยกันหมดทั้งพรรคร่วมรัฐบาล เสื้อแดง เสื้อเหลือง แล้วกำหนดแผนยุบสภา ส่วนหลังมีการเลือกตั้งแล้วจะจับขั้วกันอย่างไร ต้องเป็นเรื่องของพรรคที่มีเสียงข้างมากเป็นแกนนำหากไม่มีการไปตั้งรัฐบาลกันในค่ายทหารเหมือนครั้งที่ผ่านมา แต่พรรคเพื่อไทยพร้อมทำงานกับทุกพรรค อย่างไรก็ตามถ้านายอภิสิทธิ์จะเอาพรรคร่วมมาคุยด้วยในตอนนี้ก็ทำได้ แต่ถ้าตัวใหญ่ไม่คุยกัน คนเล็กๆ อย่างพล.ต.สนั่นมาคุย ยังไม่ได้" นายพร้อมพงศ์กล่าว