พล.ต.สนั่น ขจรประศาสจน์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเดินหน้าพบปะกลุ่มการเมืองต่างๆไม่ได้มีจุดประสงค์ต้องการขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่าจะมีคนสนับสนุนก็ตาม แต่ก็ไม่ปฏิเสธแนวทางการลาออกเพื่อเดินหน้าเจรจาและประสานงานเพื่อสร้างความปรองดองอย่างเต็มที่ โดยระบุเพียงแค่ว่าหากถึงเวลาแล้วจะบอกเองว่าจะลาออกหรือไม่ เมื่อไหร่
"ผมบอกแล้วว่าผมไม่เป็น...ส่วนตัวจะให้ผมลาออก แล้วจะไปพบปะกับใครก็ได้ทั้งนั้น เพราะไปในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ไปพูดคุยไม่ผิดอะไร ส่วนเรื่องลาออกยังไม่ถึงเวลา ถึงเวลาแล้วจะบอก"พล.ต.สนั่น กล่าว
พล.ต.สนั่น ยืนยันว่าจำเป็นต้องพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะถือว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำงานในจุดนี้ หากไม่ได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ถือว่าไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในสังคม และเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้น พ.ต.ท.ทักษิณคงจะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมือง ส่วนจะรับเงื่อนไขการปรองดองได้หรือไม่ โดยส่วนตัวคงจะตอบแทนไม่ได้
ส่วนที่ประชาธิปัตย์ที่ออกมาท้วงติงเรื่องการเดินหน้าเจรจาพูดคุย ถือว่าเป็นสิทธิ์ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็มั่นใจว่าไม่ได้หวาดระแวงการทำงานในจุดนี้ และจะขอเลือกคุยกับพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม พล.ต.สนั่น ยังได้สนับสนุนทุกแนวทางที่จะสร้างความปรองดอง ไม่ว่ากรณีที่พรรคเพื่อไทยขอนำส.ส.20 คนมาหารือกับนายกรัฐมนตรี รวมถึงข้อเสนอ 5 ข้อของพรรคเพื่อไทย เพราะถือเป็นเรื่องที่ดีถ้าหากทุกฝ่ายอยากช่วยกันให้เกิดความปรองดอง
ขณะที่ตนเองก็จะเดินหน้าจัดทำพิมพ์เขียวสร้างความปรองดอง ส่วนสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้ตัดสิน หากประชาชนเห็นด้วยทุกอย่างก็จบ ทั้งนี้ โดยส่วนตัวไม่ได้รู้สึกน้อยใจที่มีคนออกมาท้วงติงเรื่องนี้ เพราะเสียงส่วนใหญ่กว่า 99% เห็นด้วยกับแนวทางก็รู้สึกดีใจแล้ว
นอกจากนี้ พล.ต.สนั่น ยังแสดงความคิดเห็นเรื่องที่มีการปรับภูมิทัศน์ของทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไม่ได้แจ้งให้ทราบก่อน แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่โดยส่วนตัวรู้สึกชอบที่มีต้นไม้เยอะๆ
"ผมรู้สึกว่าถ้าต้นไม้เยอะ ก็สามารถบังตึกได้ เวลามี M79 มาก็จะปะทะก่อน ส่วนคนมีอำนาจทำอะไรก็ทำได้ และนายกอร์ปศักดิ์ก็ไม่ได้พูดคุยกับผมในเรื่องนี้"พล.ต.สนั่น กล่าว