นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เผยรู้สึกแปลกใจกับกระแสข่าวกลุ่มการเมืองต่างๆ เคลื่อนไหวจับขั้วเตรียมจัดรัฐบาลใหม่หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองที่ทำให้ ปชป.ถูกยุบพรรค ขณะที่สถานภาพของพรรคร่วมรัฐบาลยังมีเสถียรภาพเป็นอย่างดี
"เรื่องดังกล่าวเป็นการสร้างความแปลใจให้กับพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะแกนนำรัฐบาล และจากการตรวจสอบและได้พูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะผู้จัดการรัฐบาลยืนยันว่า ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ในการจับขั้วการเมืองหรือเปลี่ยนพรรคร่วมรัฐบาล เพราะสภาพการณ์ปัจจุบันพรรคร่วมรัฐบาลมีความเป็นปึกแผ่นสัมพันธ์ที่ดี ไม่มีสัญญาณใดๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงพรรคร่วมฯ จึงไม่เข้าใจว่าการปล่อยข่าวดังกล่าวเพื่อหวังผลอะไร และยืนยันว่าคนที่มีอำนาจในพรรคประชาธิปัตย์อยู่ที่นายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจ และก่อนที่นายกฯ เดินทางไปต่างประเทศได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่ไม่มีการส่งสัญญาณใดๆ" นายเทพไท กล่าว
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคฯ กล่าวว่า สำหรับสูตรจัดตั้งรัฐบาลนั้น โดยเฉพาะประเด็นการตัดพรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลต้องทำเช่นนั้น ส่วนกรณีพรรคประชาธิปัตย์จับมือกับพรรคเพื่อไทยแล้วให้พรรคเล็กไปเป็นฝ่ายค้านทั้งหมดนั้นก็เป็นไปไม่ได้มากที่สุด เพราะพรรคเพื่อไทยมีอุดมการณ์ที่แตกต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคเพื่อไทยยังสนับสนุนกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และอีกประเด็นคือพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย หนุนคนกลางเป็นนายกฯ นั้นเป็นสูตรสร้างความฝันให้กับคนที่หวังเป็นนายกฯ คนกลาง เพราะเรื่องดังกล่าวยังไม่เห็นภาพว่าจะจับมือกันได้อย่างไร
"มีแต่สูตรเดิมและสูตรเดียวเท่านั้น คือ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคกิจสังคม จนกว่าสถานกาณ์จะมีการเปลี่ยนแปลง" นายเทพไท กล่าว
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคฯ กล่าวว่า กรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ล้มเลิกแนวคิดที่จะนำ 20 ส.ส.เข้าพบนายกฯ เนื่องจากเจอผู้ใหญ่ในพรรคคัดค้านนั้น เป็นการล้มเหลวของนายปลอดประสพที่จำไม่ได้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ จึงอยากเรียกว่าปลอดประสบการณ์มากกว่า และการที่ตั้งข้อเสนอใหม่ 4 ข้อเกี่ยวกับการปรองดองนั้นเป็นการแก้เกี้ยว ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลปฏิบัติได้ยาก
"ผมคิดว่าพรรคเพื่อไทยเป็นการกังวลเรื่องฐานเสียงของตัวเอง โดยคำนึงถึงความรู้สึกของเสื้อแดงที่เป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยมากกว่าความรู้สึกของคนทั้งประเทศ...การปล่อยให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน และแกนนำกลุ่มคนเสื้อเดง มีบทบาทนำในพรรคเพื่อไทย ผมคิดว่ากรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการนี้น่าจะลาออก ก่อนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) รับรอง และให้นายจตุพรจัดทีมเข้ามาบริหารพรรคใหม่ดีกว่า" นายเทพไท กล่าว
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคฯ กล่าวว่า การจับกุมตัวนักรับแดง 11 คนที่ จ.เชียงใหม่นั้น ตนเองยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้สร้างข่าว และตนเองเชื่อในฝีมือของ พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล รักษาการ ผบช.ภ.5 ที่เคยเป็นผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลมาก่อน จึงต้องมีสายข่าวและแหล่งข่าวที่มีประสิทธิภาพมากกว่าคนอื่น และน่าจะแก้ปัญหาในภาคเหนือได้เป็นอย่างดี
ขณะที่แหล่งข่าวในพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวว่า หาก ปชป.ถูกสั่งยุบพรรคจริง เชื่อว่าแกนนำฯ จะพยายามรวบรวมพันธมิตรเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มี ปชป.เป็นแกนนำอีกครั้ง ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลอาจมีการปรับเปลี่ยนในส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดินที่กลุ่ม 3P กำลังเคลื่อนไหวอยู่ แต่เป็นเรื่องยากที่ ปชป.จะเขี่ยพรรคภูมิใจไทยออกไป แม้กลุ่ม 3P กับพรรคภูมิใจไทยจะไม่ลงรอยกันเนื่องจากผลการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ ที่ผ่านมา ซึ่งคงต้องอยู่ร่วมกันแบบต่างคนต่างอยู่ ขณะที่โอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะรวบรวมพันธมิตรจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากกว่า เพราะหากเกิดขึ้นจริงเชื่อว่าทหารคงออกมาทำรัฐประหารอีกครั้ง