นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่าพรรคเพื่อไทยขอคัดค้านมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่ได้ขยายเวลาการใช้บังคับ พ.ร.ก.การบริหารงานในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ในพื้นที่ 4 จังหวัดคือ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรีและปทุมธานี ต่อไปอีกเป็นเวลา 3 เดือน เนื่องจากเป็นมติที่มิชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพพื้นฐานของประชาชน
พร้อมทั้ง เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยพลัน เพื่อยุติการละเมิดการกระทำที่ผิดกฎหมาย และการละเมิดสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพี่น้องประชาชน อีกทั้งนำประเทศกลับสู่ภาวะปกติต่อไป
นายพร้อมพงศ์ ระบุว่า ขณะนี้ไม่ปรากฏว่ามีสถานการณ์ฉุกเฉินอีกต่อไปแล้ว ครม. จึงไม่มีอำนาจที่จะประกาศใช้ พ.ร.ก. ดังกล่าว มติ ครม.จึงขัดรัฐธรรมนูญ ดังจะเห็นได้ว่าการชุมนุมและการจัดกิจกรรมของพี่น้องผู้รักประชาธิปไตยก็เป็นไปด้วยความสงบ
ทั้งนี้ รัฐบาลไม่อาจอ้างการสร้างสถานการณ์วางระเบิดป่วนเมืองของคนบางกลุ่มมาเป็นเหตุในการคงไว้และขยายการใช้บังคับ พ.ร.ก. ต่อไปได้ เพราะแม้จะมีกฎหมายดังกล่าวรัฐบาลก็ไม่สามารถป้องกันและปราบปรามการกระทำดังกล่าวอย่างจริงจัง และจับกุมผู้กระทำความผิดแทบไม่ได้เลย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกว่าร้อยคดี
"สังคมยิ่งมีความเคลือบแคลงเพิ่มขึ้นว่าการวางระเบิดเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่ออ้างเหตุในการขยายการใช้บังคับต่อไปอีก" นายพร้อมพงศ์ ระบุ
นอกจากนี้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ เป็นการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน และมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการปิดสื่อของฝ่ายตรงข้าม การห้ามชุมนุมทางการเมือง การจับกุมและคุมขังที่ไม่มีการตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจ รัฐบาลนี้กำลังนำประเทศถลำลึกสู่การบริหารคล้ายในระบอบเผด็จการและรัฐทหาร
และการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินของรัฐบาล กระทบต่อการลงทุนและการท่องเที่ยว