กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวเฉลี่ย 10.5% ในปี 2553 และ 9.6% ในปี 2554 โดยได้รับแรงหนุนจากดีมานด์ในประเทศ
"กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับปานกลางในช่วงนี้น่าจะดำเนินต่อไปจนถึงปีหน้า อันเป็นผลมาจากการใช้มาตรการคุมเข้มเชิงปริมาณสำหรับการปล่อยสินเชื่อ มาตรการชะลอความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และแผนลดงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2554" ไอเอ็มเอฟระบุในรายงาน
รายงานดังกล่าวระบุว่ายอดค้าปลีกและผลผลิตอุตสาหกรรมที่ขยายตัวต่อเนื่องในปีนี้เป็นเครื่องยืนยันว่ากิจกรรมภาคเอกชนมีอิทธิพลเหนือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
"โดยเฉลี่ยในช่วงปี 2553-2554 ดีมานด์ของภาคเอกชนในประเทศมีสัดส่วนราว 2 ใน 3 ของการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะสั้น ส่วนกิจกรรมของรัฐบาลน่าจะมีส่วนราว 1 ใน 3 " รายงานระบุ
แม้ว่าดีมานด์ในประเทศจะแข็งแกร่ง แต่อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นในปี 2553 สะท้อนถึงราคาอาหารที่สูงขึ้นมากกว่าที่จะเป็นอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
รายงานระบุว่าเครือข่ายการค้าในจีนที่ขยายตัวอย่างกว้างขวางช่วยส่งเสริมให้หลายภาคส่วนมีการขยายตัวตามไปด้วย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์
ไอเอ็มเอฟยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจเอเชียในระยะกลางจะขยายตัวมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับการปรับสมดุลของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยแนะนำว่าควรพึ่งพิงตลาดในประเทศแทนที่จะพึงพิงดีมานด์จากต่างประเทศ และสำหรับจีนต้องมีการกระตุ้นบทบาทของการบริโภคในครัวเรือนให้มากขึ้น เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของดีมานด์ในประเทศ
นอกจากนั้นรายงานดังกล่าวยังแนะนำให้จีนปฏิรูประบบสาธารณสุข การศึกษา และระบบกองทุนบำเน็จบำนาญ เพื่อพัฒนาโครงข่ายความคุ้มครองทางสังคมให้ดียิ่งขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน