ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงเทียบดอลล์ ขณะนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ Friday October 8, 2010 07:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากยูโรทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อวันพุธ อย่างไรก็ตาม ดอลลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ในการประชุมต้นเดือนหน้า

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.18% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3911 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธ (6 ต.ค.) ที่ 1.3936 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินปอนด์ดิ่งลง 0.20% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5861 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5892 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 0.65% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.370 เยน จากระดับของวันพุธที่ 82.910 เยน แต่ทะยานขึ้น 0.60% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9666 ฟรังค์ จากระดับ 0.9608 ฟรังค์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.35% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9807 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธ 0.9773 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.45% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7489 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7523 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากยูโรทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อวันพุธ ทำให้นักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรสกุลเงินยูโรอย่างคับคั่ง แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะประกาศใช้มาตรการ QE ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก

นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนว่า การที่รัฐบาลในบางประเทศยื่นมือเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรามากเกินความจำเป็นนั้น อาจสร้างความเสียหายต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก ขณะที่นายโดมินิก สเตราส์-คาห์น กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้เรียกร้องประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่เพิ่มความพยายามในการป้องกันการเกิดสงครามค่าเงินทั่วโลก

สเตราส์-คาห์นยังกล่าวด้วยว่า ทั่วโลกสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ที่ใหญ่กว่านี้มาได้ เนื่องจากความร่วมมือกันทางด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นการคลังและนโยบายการเงิน แต่ปัจจุบัน ความเต็มใจที่จะร่วมมือกันนั้นได้ลดลง และเริ่มเห็นถึงความเป็นไปได้ที่ทั่วโลกกำลังเริ่มต้นทำสงครามค่าเงิน

ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกัน และเป็นไปตามความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงแม้ธนาคารกลางอังกฤษมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% เป็นเดือนที่ 19 ติดต่อกัน ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษยังได้ตัดสินใจที่จะไม่อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มเติมภายใต้โครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของตลาดเช่นกัน แม้ว่าจะมีแรงกดดันเพิ่มมากขึ้นให้ธนาคารกลางขยายโครงการดังกล่าวเพื่อเพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบและกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจก็ตาม

นักลงทุนจับตาดูรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ย.ซึ่งกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดตัวเลขจ้างงานจะทรงตัวในเดือนก.ย. หลังจากลดลง 54,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.ย.จะอยู่ที่ 9.7% เพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค.ที่ระดับ 9.6%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ