โรเบิร์ต เซลลิก ประธานธนาคารโลก กล่าวระหว่างการแถลงข่าวก่อนการประชุมประจำปีของเวิลด์แบงก์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวเฉลี่ย 10.5% ในปี 2553 และ 9.6% ในปี 2554 โดยได้รับแรงหนุนจากดีมานด์ในประเทศ
"เศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนการค้าทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นประโยชน์กับผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์และสินค้าทุน" รายงานดังกล่าวระบุ
ประธานเวิลด์แบงก์ยังกล่าวย้ำว่า การที่มีเศรษฐกิจหลายขั้วเกิดขึ้นทำให้ต้องอาศัยความรู้หลายขั้วเช่นกัน ดังนั้นความรู้จากประเทศเศรษฐกิจใหม่จึงเป็นประสบการณ์ใหม่ที่มีประโยชน์ต่อโลก
นายเซลลิกกล่าวต่อไปว่า เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว แต่ไม่เร็วพอที่จะทำให้เกิดตำแหน่งงานมากพอ ขณะเดียวกันผลจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ยังคงส่งผลกระทบต่อชีวิตและการทำงานของผู้คน
"เราต้องมีเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างสมดุลและยั่งยืนกว่านี้" เขากล่าว
นอกจากนั้นนายเซลลิกยังเตือนว่าหลายประเทศอาจหันกลับมาใช้นโยบายกีดกันทางการค้าอีกครั้งในช่วงหลังวิกฤตการเงิน พร้อมย้ำว่าการกีดกันทางการค้าไม่ใช่ทางออกของปัญหา และรังแต่จะทำให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนวิกฤตการเงินช่วงทศวรรษ 1930 สำนักข่าวซินหัวรายงาน