เวสท์แพค แบงค์กิง คอร์ปอเรชั่น (Westpac Banking Corporation) คาดการณ์ว่าสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียจะแข็งค่าแซงหน้าเงินดอลลาร์สหรัฐในสิ้นปีนี้ หลังจากที่เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 99.2 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนที่จะอ่อนค่าลงมาสู่ระดับ 98.05 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ณ เวลา 11.50 น.ของวันนี้ตามเวลาออสเตรเลีย
เวสต์แพคกล่าวว่า เงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า ประกอบกับการที่นักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ในการประชุมต้นเดือนหน้า เป็นแรงผลักดันให้เงินดอลลาร์ออสเตรเลียเป็นที่ต้องการมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าเหนือค่ากลาง เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปีนี้
บิล อีแวนส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากเวสท์แพค กล่าวว่า "วันนี้เงินดอลลาร์ออสเตรเลียซื้อขายอยู่ที่ราว 0.98 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย หากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอีกแค่ประมาณ 4% เงินดอลลาร์ออสเตรเลียจะอยู่ที่ระดับ 1.02 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลียทันที และมีแนวโน้มว่าจะพุ่งขึ้นอีกในช่วง 2-3 เดือนต่อจากนี้"
ทั้งนี้ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้อีแวนส์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางออสเตรเลียน่าจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในเดือนพฤศจิกายน และจะขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ราว 0.75% ในช่วง 2-3 เดือนต่อจากนี้ ซึ่งหมายความว่าดอกเบี้ยนโยบายจะแตะระดับ 5.25% ภายในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า
"ในช่วง 9 เดือนต่อจากนี้เราคาดว่าธนาคารกลางออสเตรเลียจะขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 0.75%" อีแวนส์ กล่าว "เงินดอลลาร์ออสเตรเลียจะเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีสภาพคล่องโดยที่ธนาคารกลางไม่ต้องใช้มาตรการช่วยเหลือ แต่ต้องใช้นโยบายคุมเข้มแทน" สำนักข่าวซินหัวรายงาน