นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า การเดินทางไปโรดโชว์ทำตลาดข้าวที่ตลาดแอฟริกาใต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลไนจีเรียและเซเนกัลสนใจที่จะซื้อข้าวไทยและตกลงกันด้วยวาจาแล้ว โดยไนจีเรียสนใจซื้อข้าวจำนวน 650,000 ตัน และเซเนกัล 500,000 ตัน โดยหลังจากนี้คณะทำงานระดับเจ้าหน้าที่จะไปหารือในรายละเอียด เพื่อซื้อขายในรูปแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) อีกครั้ง ส่วนเรื่องการระบายข้าวสต๊อกรัฐบาลในขณะนี้ยังไม่ต้องการพูดอะไรมาก เพราะเกรงจะกระทบกับราคาตลาดในประเทศ
"ผมยังไม่ขอพูดเรื่องการระบายข้าว โดยเฉพาะการระบุตัวเลขที่ชัดเจน ทั้งปริมาณที่ขายไปแล้วและสต๊อกที่เหลืออยู่ เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อราคาในตลาด ซึ่งการระบายที่ผ่านมาถือว่าได้ผลดี ไม่ทำให้ราคาตลาดลดลงมาก แต่จะต้องเร่งระบายให้เสร็จสิ้นก่อนข้าวนาปีฤดูกาลใหม่จะออกในเดือนธันวาคมนี้ เพราะปีนี้ข้าวออกช้ากว่าทุกปี แต่การระบายจะต้องเก็บสำรองเพื่อความมั่นคงด้านอาหารด้วยจำนวนหนึ่ง" นายไตรรงค์ กล่าว
ด้านนายพรศิลป์ พัชรินทร์ตะนกุล รองเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การช่วยเหลือชาวนาด้วยนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการประกันราคา หรือการแทรกแซงราคาข้าว ล้วนแต่เป็นการช่วยเหลือเฉพาะด้านการเงิน ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และขีดความสามารถการแข่งขัน ทำให้ยังคงมีปัญหาเรื่องทุจริตคอรัปชั่นทุกรูปแบบ
นอกจากนี้ยังเสนอให้รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ข้าวขึ้นใหม่ โดยไม่มีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ให้มีตัวแทนผู้เชี่ยวชาญทุกภาคส่วนเข้าร่วมเป็นกรรมการแทน เพื่อวางยุทธศาสตร์ระยะยาวของประเทศ เช่น การร่วมกันผลิตข้าวของชาวนา พื้นที่การปลูกข้าวขนาดใหญ่ และใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาจัดการ เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ลดต้นทุนให้ชาวนา