พณ.เผยยอดตั้งบริษัทใหม่ก.ย.โต 10% เอกชนมั่นใจเศรษฐกิจเริ่มฟื้น

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 8, 2010 18:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า สถิติจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่เดือน ก.ย.53 มียอดขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เป็นนิติบุคคล ประเภทห้างหุ้นส่วนและบริษัททั่วประเทศรวม 4,959 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10% หรือเพิ่มขึ้น 491 ราย

ขณะที่มีเงินทุนจดทะเบียน 21,722 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11% หรือลดลง 2,869 ล้านบาท โดยนิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บริการนันทนาการ เช่น ตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล, จัดหานักแสดง, คาราโอเกะ บันเทิง 511 ราย ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ซ่อมแซมอาคาร ที่พักอาศัย 493 ราย และอสังหาริมทรัพย์ ให้เช่าที่อยู่อาศัย 240 ราย

สำหรับสถิติจดทะเบียนธุรกิจรวมในไตรมาส 3/53 มี 13,231 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8% หรือ 1,038 ราย ส่วนยอดจดทะเบียนรวม 9 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.ย.53) มี 38,886 ราย เพิ่มขึ้น 23% ส่วนทุนจดทะเบียน 173,840 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99%

รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงยอดจดทะเบียนเลิกกิจการเดือนก.ย.53 ว่ามี 1,336 ราย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3% หรือ 45 ราย มีเงินทุนยกเลิกรวม 7,478 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 32% หรือ 1,844 ล้านบาท สำหรับประเภทธุรกิจที่เลิกกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ การก่อสร้างอาคารทั่วไป 123 ราย, อสังหาริมทรัพย์ 71 ราย และบริการด้านธุรกิจอื่น 50 ราย

ขณะที่ยอดเลิกกิจการรวมในไตรมาส 3/53 มี 3,763 ราย ลดลงจากปีก่อน 7% หรือ 317 ราย ส่วนยอดจดทะเบียนยกเลิกกิจการในช่วง 9 เดือนแรก มี 9,312 ราย ลดลง 9% เงินทุนยกเลิกรวม 48,847 ล้านบาท ลดลง 1%

ดังนั้นส่งผลให้ ณ ปัจจุบันมีจำนวนห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญ บริษัทจำกัดที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ 540,985 รายและบริษัทมหาชนที่ดำเนินกิจการอยู่ 891 ราย รวมนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ 541,876 ราย

"ยอดจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้น สะท้อนว่าภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงภาคการส่งออกก็ขยายตัวได้ถึง 25 % ส่งผลให้ภาคเอกชนกล้าตัดสินใจจัดตั้งและขยายธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และหลังจากนี้เชื่อว่าแนวโน้มการขยายตัวเศรษฐกิจยังมีต่อเนื่อง แม้จะได้รับผลกระทบจากปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นก็ตาม" นายอลงกรณ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ