ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างความเชื่อมั่นด้านการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกด้วยการกระตุ้นการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมโลกหลีกเลี่ยงการใช้นโยบายกีดกันทางการค้า
โดยที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการ (Development Committee) ระบุว่าช่วงเวลา 2 ปีหลังจากเกิดวิกฤตทางการเงิน กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาได้ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจรอดพ้นจากภาวะขาลงโดยมุ่งเน้นที่ความสำคัญด้านการค้าและการลงทุนเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวและการขยายตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้น เราจึงขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกหลีกเลี่ยงการใช้นโยบายกีดกันทางการค้าในทุกรูปแบบ
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังให้การสนับสนุนความพยายามของธนาคารโลกในการพัฒนาด้านระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน นวัตกรรม และการลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่วาณิชธนกิจเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง อิงค์ของสหรัฐล้มละลายเมื่อเดือนกันยายน 2551 เศรษฐกิจโลกสามารถรอดพ้นจากวิกฤตการณ์ที่เลวร้ายได้เนื่องจากประเทศต่างๆ รวมถึงองค์กรการเงินทั่วโลกต่างใช้นโยบายรับมือกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่หลายแห่งที่สามารถฟื้นตัวได้เร็วเพราะมีมาตรการทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพนับตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดวิกฤตการณ์ ซึ่งขณะนี้กลุ่มประเทศดังกล่าวกำลังมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก สำนักข่าวเกียวโดรายงาน