นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เรียกร้องให้รัฐบาลสนับสนุนการปฏิรูปเศรษฐกิจเชิงโครงสร้าง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ พร้อมกับเตือนว่า การใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอาจจะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ในระบบเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ได้ เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวจะกระตุ้นให้กระแสเงินทุนไหลเข้าประเทศจำนวนมาก
ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น ซึ่งได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมระดับนานาชาติในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังย้ำด้วยว่า นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ แต่นายชิรากาว่าไม่ได้ระบุถึงการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายชิรากาว่า กล่าวว่า การปฏิรูปเศรษฐกิจในเชิงโครงสร้างนั้น เป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะจะช่วยกระตุ้นการผลิตให้ขยายตัวผ่านการพัฒนาในรูปแบบต่างๆ ขณะที่ประเทศอยู่ในระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินรอบใหม่เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนโยบายดังกล่าวประกอบด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ 0 - 0.1% รวมทั้งการจัดตั้งกองทุนซื้อพันธบัตรเพื่อกระตุ้นสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านพยายามกดดันแบงค์ชาติญี่ปุ่นให้ดำเนินการมากกว่านี้ เพื่อแก้ปัญหาเงินฝืดและผลกระทบอันเนื่องมาจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นมาก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นยังเตือนด้วยว่า การใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินในญี่ปุ่น สหรัฐ ยุโรปอย่างต่อเนื่องนั้น หากมีการใช้นโยบายดังกล่าวต่อไปอีกเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดผลกระทบรุนแรงได้