KBANK จับมือกลุ่มฮั่วเซ่งเฮงบริการบัตรธุรกิจซื้อขายทองคำแทนเงินสด

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 11, 2010 12:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคาร ได้ร่วมมือกับกลุ่มฮั่วเซ่งเฮง ผู้ให้บริการซื้อ-ขายทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย พัฒนาบริการรับชำระราคาทองคำผ่านบัตรธุรกิจกสิกรไทย (K-Corporate Payment Card) ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยผู้ถือบัตรธุรกิจกสิกรไทยสามารถใช้บัตรในการรับชำระค่าทองคำทั้งการซื้อและการขาย วงเงินสูงสุดถึง 999,999,999 บาทต่อวัน และพัฒนาไปอีกขั้นให้สามารถใช้บัตรธุรกิจในการชำระค่าหลักประกันสำหรับการซื้อ-ขายทองคำในตลาดล่วงหน้า (Gold Futures) ได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย

บริการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ซื้อและนักลงทุนทองคำในตลาดทั่วไปสามารถชำระค่าทองคำผ่านบัตร โดยไม่ต้องใช้เงินสดจำนวนมากหรือเช็คในการชำระเงินอีกต่อไป ในกรณีที่เป็นการซื้อ-ขายในตลาดล่วงหน้า (Gold Futures) ลูกค้าก็สามารถใช้บัตร K-Corporate Payment Card เพื่อวางหลักประกัน 10% ของมูลค่าทองคำที่ซื้อ-ขาย แทนการใช้เงินสดและเช็คได้เช่นกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความสะดวกแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการขนเงินสดเป็นจำนวนมาก ลดปัญหาธนบัตรปลอม และความผิดพลาดจากการนับเงินสด นอกจากนี้การชำระเงินผ่านบัตรธุรกิจ ยังเป็นการตัดยอดการชำระแบบทันที ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายทราบราคา ซื้อขายจริงทันที จึงไม่ต้องกังวลกับปัญหาความผันผวนของราคาทองคำที่อาจเกิดขึ้น

นายปรีดา พสวงศ์ รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า ว่า บริการบัตรธุรกิจกสิกรไทย จะช่วยให้ฮั่วเซ่งเฮงและลูกค้า รวมทั้งนักลงทุนที่ต้องการซื้อ-ขาย ทองคำ สามารถทำธุรกรรมได้อย่างคล่องตัวและมีความปลอดภัยสูงสุดในขณะนี้ โดยเฉพาะการเพิ่มความสะดวกให้ผู้สนใจลงทุนซื้อ-ขายทองคำในตลาดล่วงหน้า (Gold Futures) ที่สามารถใช้บัตรธุรกิจกสิกรไทยวางเป็นหลักประกันในการซื้อขายทองคำได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมจากผู้ค้าทองคำและนักลงทุนในอนาคตแน่นอน

ทั้งนี้ ตลาดซื้อ-ขายทองคำในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ในด้านราคาทองพบว่าช่วงต้นปี 52 ราคาเฉลี่ยบาทละ 14,000 บาท และในปัจจุบันราคาเฉลี่ยบาทละ 18,000 บาท ในด้านความต้องการในประเทศ ตัวเลขการนำเข้าในช่วงเดือน ม.ค.52 ไทยนำเข้าทองคำประมาณ 4,890 ล้านบาท และ ณ สิ้นเดือน ส.ค.53 มีปริมาณการนำเข้าคิดเป็นมูลค่า 20,570 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ