นางสาวอริยา ติรณะประกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า ช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.53) มีภาคเอกชนออกหุ้นกู้แล้วจำนวน 1.91 แสนล้านบาท ขณะที่ทั้งปี 53 คาดว่าจะมีภาคเอกชนออกหุ้นกู้ประมาณ 2.5 แสนล้านบาท เนื่องจากมองว่ายังมีหุ้นกู้ของบริษัทขนาดกลางและเล็กที่จะออกหุ้นกู้เพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปี
อย่างไรก็ตาม การออกหุ้นกู้ภาคเอกชนในปีนี้ยอมรับว่าลดลงจากปี 52 ที่มียอดรวม 4.3 แสนล้านบาท เนื่องจากปีก่อนมีบริษัทเอกชนขนาดใหญ่รายแห่งเร่งระดมเงินด้วยการออกหุ้นกู้เป็นจำนวนมาก แต่ในปีนี้กลับมีการออกลดลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการชะลอโครงการลงทุนในมาบตาพุด
ส่วนในปี 54 ยังไม่สามารถคาดการณ์จำนวนการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชน โดยขอรอประเมินมาตรการจากรัฐบาลที่จะออกมาดูแลค่าเงินบาทก่อนว่าจะมีผลต่อเม็ดเงินลงทุนของต่างชาติมากน้อยอย่างไร
"ตอนนี้ยังประเมินไม่ได้ว่าปีหน้าภาคเอกชนจะออกหุ้นกู้มากน้อยแค่ไหน เพราะยังมีหลาย factor ที่มีผล รวมถึงมาตรการที่รัฐบาลจะออกมาขอรอดูผลก่อนว่าตลาดจะรอบรับแค่ไหน...แต่ปี 54 มองว่าดอกเบี้ยอาจจะขยับขึ้น หากดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2% ปีหน้าดอกเบี้ยเงินกู้ของแบงก์ก็น่าจะเพิ่มขึ้น"นางสาวอริยา กล่าว
สำหรับการที่รัฐบาลเตรียมจัดเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% จากกำไรในการลงทุนในพันธบัตรของนักลงทุนต่างประเทศนั้น ขณะนี้ได้ส่งผลต่อตลาดตราสารหนี้แล้ว โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 8 ต.ค.53 หลังมีกระแสข่าวออกมาทำให้ผลตอบแทนอ้างอิงพันธบัตรอายุ 5-10 ปี ปรับขึ้นไปแล้ว 0.005% และวันนี้ผลตอบแทนอ้างอิงได้ขึ้นไปอีก 0.010% ซึ่งสะท้อนว่าตลาดมีความกังวลกับมาตรการที่ออกมา
ทั้งนี้ ยอมรับว่าการที่มีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาในประเทศไทยและมีผลต่อค่าเงิน จึงเป็นเรื่องที่ทางการหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะหาแนวทางชะลอเงินลงทุนของต่างชาติ แต่ก็หวังว่าจะเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น 3-6 เดือน
"เชื่อว่าตลาดก็คงไม่แฮปปี้กับมาตรการนี้ แต่ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ทางการจะต้องออกมาตรการมา แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะมีผลรุนแรง และดีกว่ามาตรการกันเงินสำรอง 30% แต่ก็หวังว่าจะเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น" นางสาวอริยา กล่าว