ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: แรงซื้อหนุนดอลล์แข็งเทียบยูโร-เยน ขณะตลาดจับตาข้อมูลศก.สหรัฐสัปดาห์นี้

ข่าวต่างประเทศ Tuesday October 12, 2010 07:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์เพราะมองว่าค่าเงินดิ่งลงมากเกินไปในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม วอลุ่มการซื้อขายในตลาดเบาบางมากเนื่องจากตลาดพันธบัตรสหรัฐปิดทำการ นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีการจ้างงานเดือนก.ย.และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงาน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.15% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 82.020 เยน จากระดับของวันศุกร์ (8 ต.ค.) ที่ 81.900 เยน และแข็งค่าขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9632 ฟรังค์ จากระดับ 0.9622 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรดิ่งลง 0.37% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3889 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3940 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.45% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5891 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5963 ดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้น 0.06% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9854 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.9848 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.41% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7523 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7554 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพราะมองว่าค่าเงินดิ่งลงมากเกินไปในช่วงทีผ่านมา อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ยังคงถูกกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการ QE ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ ซึ่งสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นในระบบการเงินจะฉุดสกุลเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง

อย่างไรก็ตาม วอลุ่มการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากปลีกตัวออกไปอยู่นอกตลาด อันเนื่องมาจากตลาดพันธบัตรและหน่วยงานราชการของสหรัฐปิดทำการในวันจันทร์ที่ 11 ต.ค.เนื่องในวันโคลัมบัส นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่บริษัทเอกชนจะเปิดเผยผลประกอบการ โดยเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค จะเปิดเผยผลประกอบการในวันพุธ ส่วนกูเกิล อิงค์ จะเปิดเผยผลประกอบการในวันพฤหัสบดี และเจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) จะเปิดเผยผลประกอบการในวันศุกร์

นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 21 ก.ย.ซึ่งคณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยรายงานดังกล่าวในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยการประชุมในครั้งนั้นคณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ไว้ที่ระดับ 0-0.25% และประกาศว่าเฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งหากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น อีกทั้งย้ำว่าเฟดจะยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกระยะหนึ่ง

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีการจ้างงานเดือนก.ย. ข้อมูลราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ย. ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนส.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. และยอดค้าปลีกเดือนก.ย.

ก่อนหน้านี้เฟดระบุว่า ยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคในสหรัฐเดือนส.ค.ร่วงลง 1.75% ต่อปี มาอยู่ที่ระดับ 3.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งร่วงลงเป็นเดือนที่ 18 ภายในระยะเวลา 19 เดือนที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

ทั้งนี้ ยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคที่หดตัวลงในสหรัฐกำลังส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐด้วย เนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ